รายงานข่าวจากบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ทอท.มีมติเห็นชอบ แนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตามที่ฝ่ายบริหาร ทอท.เสนอ โดยเห็นควรชะลอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. และให้ ทอท. เสนอ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์เร่งรัดการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้าน ทิศตะวันตก ทสภ. (West Expansion) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติทั้งสองโครงการไปก่อน
ทั้งนี้ ทอท. ระบุว่า เนื่องจากกรณีมีผู้สงสัยเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ. ว่า ทอท.ดำเนินโครงการฯ ไม่ตรงตามรายงานผลการศึกษาขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization) หรือ ICAO และไม่เป็นไปตามแผนแม่บท ทสภ. ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการฯ เป็นไปด้วยความรอบคอบ ทอท.ได้ทำหนังสือสอบถาม ขอความเห็นจาก ICAO ในฐานะผู้จัดทำรายงานผลการศึกษาแผนแม่บท ทสภ.เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A (Concourse A) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ ทอท.จะใช้ดำเนินการก่อสร้างอาคารฯ นอกจากนี้มีกรณีที่บริษัทที่ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ชนะการประกวดแบบ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ซึ่ง ทอท.ได้เสนอเรื่องหารือข้อกฎหมายต่อสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาข้อหารือ ดังนั้น ทอท.จึงมีความเห็นว่า เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยและระดับคุณภาพในการให้บริการ (Level of Service) ของ ทสภ.ให้เทียบเท่าท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก จึงขอชะลอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ.จนกว่าจะได้ข้อสรุปผลการหารือจากผู้เกี่ยวข้อง โดยให้ฝ่ายบริหาร ทอท.รวบรวมข้อเท็จจริง และความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ เพิ่มเติม รวมถึงผลการพิจารณาของ ICAO และสำนักงานอัยการสูงสุด และเสนอแนวทางดำเนินการให้คณะกรรมการ ทอท.พิจารณาต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการ ทอท.มีมติอนุมัติโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินและการท่องเที่ยวไทยระยะสั้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ตามที่ฝ่ายบริหาร ทอท.เสนอ เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งให้ยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมตามมาตรา 12 (1) ประเภทนักท่องเที่ยว (ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว) เป็นการชั่วคราว พ.ศ.2561 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2561 - 31 มกราคม 2562 จำนวน 21 ประเทศ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในอนาคต
โดย ทอท.พิจารณาโครงการกระตุ้นการตลาดด้านการบินฯ บนพื้นฐานท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งที่ ทอท.บริหารงานแล้ว พบว่า ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ปัจจุบันมีโครงการในลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว ในขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) มีหลุมจอดไม่เพียงพอต่อความต้องการของสายการบินในปัจจุบัน และท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ไม่สามารถขยายระยะเวลาลงจอดอากาศยานได้เกินกว่าเวลา 24.00 น. ดังนั้น จึงสามารถดำเนินโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินฯ ใน 2 ท่าอากาศยานที่เหลือ คือ ทสภ.และ ทภก. โดยโครงการดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ
1. สายการบินที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นสายการบินที่ไม่เคยมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศในช่วงเวลา 02.00 - 06.59 น. และเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่มายัง ทสภ.และ ทภก. ในช่วงเวลา 02.00 - 06.59 น.หรือสายการบินเดิมที่เคยมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศในช่วงเวลา 02.00 - 06.59 น. และเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศใหม่เพิ่มเติมในช่วงเวลา 02.00 - 06.59 น. มายัง ทสภ.และ ทภก.
2. สายการบินจะได้รับส่วนลดค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน (Landing Fee) ในอัตราร้อยละ 50 และสนับสนุนเป็นเงินโบนัส 200 บาทต่อผู้โดยสารขาออก 1 คน
3. โครงการมีระยะเวลา 4 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 และสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562