นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดว่าในงวดปี 62 (ต.ค.61-ก.ย.62) จำนวนผู้โดยสารเติบโตไม่ต่ำกว่างวดปีก่อน (ต.ค.60-ก.ย.61) โดยเท่าที่พิจารณาจากข้อมูลจำนวนที่นั่ง (Seat Capacity) เบื้องต้นในขณะนี้มีการเติบโตมากกว่า 10% โดยสายการบินจีนจองตารางเที่ยวบินไว้ ซึ่งก็ต้องติดตามในเดือนธ.ค.ว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาไทยมากน้อยเพียงใด
"ในเดือนธ.ค. Load Factor (อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร) ควรจะกลับมา ควรจะดีขึ้น เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่น ในเดือน พ.ย.ก็เริ่มกลับมาดีขึ้น คือตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อเดือน ก.ค.ในเดือน ส.ค.แย่ที่สุดตกท้องช้าง พอมาในเดือน ก.ย.ก็ดีขึ้น ต.ค.ก็พอๆ กับก.ย."นายนิตินัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายนิตินัย กล่าวว่า ในไตรมาส 1/62 (ต.ค.-ธ.ค.61) คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเป็นบวก แต่ไม่ได้เติบโตมาก เพราะในไตรมาส 1/61 (ต.ค.-ธ.ค.60) มีฐานตัวเลขใหญ่ที่จำนวนผู้โดยสารมีอัตราเติบโต 13-14% ขณะที่ในช่วง 1 ต.ค.-15 พ.ย.61 จำนวนผู้โดยสารเติบโต 3-4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สายการบินจากจีนบางส่วนยกเลิก ขณะที่มีรัสเซียและอินเดียเข้ามาแทนที่ แต่ยังมีสายการบินจีนที่เหลือยังคงตารางบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพราะคาดว่าเดือน ธ.ค.น่าจะดีขึ้น
นอกจากนี้ มีแนวโน้มผู้โดยสารเส้นทางระหว่างประเทศ (International) จะเติบโตมากกว่าผู้โดยสารเส้นทางในประเทศ (Domestic) โดยในช่วง 2 ปีที่แล้วมีการเติบโตลดลงหลังสายการบินต้นทุนต่ำไม่ค่อยรุกตลาดเส้นทางในประเทศ แต่หันไปเน้นเส้นทางระหว่างประเทศมากขึ้น
"ในไตรมาส 1 ปีนี้ ผู้โดยสารเติบโตในอัตราชะลอตัวลง แต่ก็มีการเปลี่ยนผู้โดยสารจาก Domestic ไป Inter มากขึ้น" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าว
ทั้งนี้ มาตรการให้ยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว (Visa On Arrival : VOA) ที่จะเริ่ม 1 ธ.ค. 61 ให้กับนักท่องเที่ยวต่างประเทศจะต้องดูผลของมาตรการสักระยะหนึ่งก่อน โดยยอมรับว่ายังคาดเดายาก