ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,619.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด (+0.14%) มูลค่าการซื้อขาย 14,391.58 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,622.01 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,614.68 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบมาก เป็นลักษณะของการพักตัวหลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นไป โดยหลายปัจจัยขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ชัดเจน ราคาน้ำมันยังนิ่ง ๆ อยู่ จากที่สต็อคน้ำมันของสหรัฐฯออกมามีมากกว่าคาด แต่ราคาน้ำมันก็ไม่ได้ตอบสนองในเชิงลบ อาจเป็นผลจาก Oversold แล้ว
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยช่วงนี้ให้ติดตามเรื่องงบประมาณของอิตาลี ที่ล่าสุดดูเหมือน Sentiment จะดีขึ้นบ้าง ที่อิตาลีอาจจะลดทอนจุดยืนของตัวเอง โดยยอมแก้ไขงบประมาณลง แต่ก็ต้องรอดูพัฒนาการจะออกมาเป็นอย่างไรต่อไปในการเจรจาของทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ให้ติดตามประเด็นอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) และการประชุม G20 ให้ติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
สำหรับปัจจัยในประเทศขณะนี้ดูดีขึ้นหลังจากที่ตัวเลขการส่งออกของไทยออกมาดี และตัวเลขนำเข้าก็ดี ทำให้คลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าไปได้บ้าง โดยตัวเลขนำเข้าสะท้อนถึงสินค้าบริโภคในประเทศ ที่ Domestic Demand ยังเติบโตต่อเนื่อง มีเพียงการท่องเที่ยวที่ยังไม่ดี จากที่นักท่องเที่ยวจีนยังเข้ามาไม่มาก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,754.73 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,260.39 ล้านบาท ปิดที่ 9.05 บาท ลดลง 0.65 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 606.52 ล้านบาท ปิดที่ 442.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
OSP มูลค่าการซื้อขาย 562.56 ล้านบาท ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 543.74 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 1.00 บาท