นายนิติธร ดีอำไพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ช ทวี (CHO) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปี 62 จะเติบโตต่ำกว่าปีนี้ (ไม่นับรวมโครงการพิเศษที่จะเกิดขึ้น) ซึ่งเป็นการเติบโตจากธุรกิจหลัก หรืองานออกแบบและผลิตรถลำเลียงอาหารสำหรับเครื่องบิน (Catering) จากการเข้าประมูลงาน และรับคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีการส่งมอบรถลำเลียงอาหารให้แก่ การบินไทย, แอร์เอเชีย และในประเทศสิงค์โปร, เกาหลี เป็นต้น
"ปีหน้าเราคงเติบโตปกติเป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจหลัก ซึ่งไม่ได้นับรวมกับงานประมูลพิเศษที่จะเกิดขึ้น โดยเรายังคงเข้าประมูลงานรถลำเอียงอาหารอย่างต่อเนื่อง และยังมีการส่งมอบรถโดยสาร NGV ล็อตสุดท้ายจำนวน 187 คัน ในเดือนก.พ.62 ซึ่งเมื่อส่งมอบครบหมดแล้ว เราก็ยังรับรู้รายได้จากการซ่อมบำรุงรถตามสัญญา 10 ปี ประกอบกับยังมีงานประมูลอื่นๆ ที่จะเข้ามาอีก"นายนิติธรกล่าว
ทั้งนี้จะมีรายได้จากงานบริการซ่อมบำรุงรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน ให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งเป็นไปตามสัญญาซื้อขายและว่าจ้างซ่อมแซมและบำรุงรักษาตลอดระยะเวลา 10 ปี คิดเป็นมูลค่ารวม 2,370 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) รวมถึงธุรกิจศูนย์บริการซ่อมรถบรรทุก "สิบล้อ 24 ชั่วโมง" ซึ่งบริษัทฯ มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 40 ล้านบาท/แห่ง
นอกจากนี้ยังทยอยรับรู้รายได้จากการซ่อมปืนใหญ่ให้กับกระทรวงกลาโหม จำนวน 22 กระบอก มูลค่ารวม 400 ล้านบาท โดยจะเป็นการทยอยรับรู้รายได้ระยะเวลา 3 ปี และจะมีการส่งมอบงานประมาณ 8-10 กระบอก/ปี อีกทั้งยังรอประมูลงานเพิ่มเติมอีก ในส่วนของโครงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) จ.ขอนแก่น มูลค่า 6 พันล้านบาท ผ่านบริษัทร่วมลงทุน หรือบริษัท เคแอลอาร์ที จำกัด (KLRT) คาดว่าจะมีการเปิดประมูลได้ในปี 62 ซึ่งบริษัทฯ คาดหวังได้รับงานดังกล่าว และหากได้รับงานก็จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาในปี 63-64
สำหรับการตั้งบริษัทย่อย หรือบริษัท อมรรัตนโกสินทร์ จำกัด (ARK) โดย CHO ถือหุ้นในสัดส่วน 99.97% เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารรถโดยสารประจำทาง อัจฉริยะ (SMART BUS) โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการเดินรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 40 ราย เพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัทที่ได้รับสัมปทานการเดินรถดังกล่าว คาดหวังจะเข้าลงทุนได้ทั้งหมด ซึ่งน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 62 อย่างไรก็ตามงบลงทุนจะมาจากบริษัทส่วนหนึ่ง และพาร์ทเนอร์อีกส่วนหนึ่ง
ส่วนการเข้าลงทุนใน บริษัท ออลเอส โฮลดิ้ง จำกัด โดย CHO ถือหุ้นในสัดส่วน 6.25% ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและประกอบรถ ดำเนินกิจการรถรับจ้างสาธารณะ กิจการเทคโนโลยีที่สนับสนุนกิจการรถรับจ้างสาธารณะ และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับรถรับจ้างสาธารณะ โดยโครงการหลักคือให้บริการโครงการ LONDON TAXI ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมการให้บริการรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน แบบพิเศษ คาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไร และรับรู้รายได้จากการขายอุปกรณ์ และการบริหารจัดการเข้ามาได้ในปี 62
นายนิติธร กล่าวว่า สำหรับในปีนี้บริษัทฯ คาดรายได้จะเติบโตมากกว่า 20% หลัง 9 เดือนที่ผ่านมามีรายได้แล้วที่ 1.97 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1.59 พันล้านบาท เป็นไปตามการรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) โดยในไตรมาส 4/61 บริษัทฯ เตรียมส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ล็อต 2 จำนวน 102 คัน ในวันที่ 27 พ.ย.61 และในช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ จะส่งมอบรถเมล์ล็อตถัดไปอีกจำนวน 100 คัน อีกทั้งจะส่งมอบรถลำเลียงอาหาร อีกจำนวน 8 คัน มูลค่ารวม 41 ล้านบาท