CPALL คาดยอดขายปี 51 โต 10-15% เดินหน้าเพิ่มสินค้า-ขยายสาขาใหม่ตามแผน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 11, 2008 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) หวังรักษายอดขายปี 51 เติบโต 10-15% จากปี 50 ที่คาดมีรายได้ราว 1.2 แสนล้านบาทหรือโต 15% จากปีก่อนหน้า ไม่หวั่นกำลังซื้อหดตัวหลังสินค้าหลายรายการปรับขึ้นราคา พร้อมเตรียมออกสินค้าใหม่ประเภทเบเกอรี่และอาหารหวังกระตุ้นยอดขายอีกทาง และเดินหน้าขยายสาขาร้านเซเว่น อีเลฟเว่น อย่างต่อเนื่องในช่วงปี 51-52 ปีละอีก 450 สาขา เพื่อเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 5,200 สาขา  ขณะที่มีแผนตัดขาดทุนกิจการโลตัสในจีนภายในเดือน พ.ค.นี้
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร CPALL เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่าในปี 51 บริษัทจะรักษาการเติบโตของยอดขายที่ 10-15% เช่นเดียวกับปี 50 ที่วางแผนการเติบโต 10-15% จากปี 49 ที่มียอดขาย 1.04 แสนล้านบาท
แม้ขณะนี้มีราคาสินค้าบางประเภทปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ไม่กังวลเนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายในร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม บริษัทก็จะมีการประเมินกำลังซื้อของผู้บริโภคจากปัจจัยดังกล่าวด้วย แต่มองว่าสถานการณ์ในปีนี้จะดีขึ้นทั้งเศรษฐกิจและการเมืองที่คลี่คลายจะเป็นปัจจัยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาได้
"เรายังคงมองการเติบโตของบริษัทในปี 51 เหมือนปี 50 ถึงแม้เราจะกังวลบ้างในการที่ราคาสินค้าจะปรับเพิ่มขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ ซึ่งตอนนี้เราก็อยู่ระหว่างประเมินการปรับราคาสินค้าของกรมการค้าภายในว่าจะมีการปรับเพิ่มสินค้าตัวไหน แต่ก็คงไม่รุนแรงกับเราเพราะสินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นอาหารและสินค้าที่คนมาซื้อเพราะจำเป็น"นายสุวิทย์ กล่าว
ในปีนี้บริษัทยังเตรียมออกสินค้าประเภทเบเกอรี่และอาหารนำมาวางขายในร้านค้าเซเว่น อิเลฟเว่น ให้มีความหลากหลายจากที่มีอยู่เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้าและยอดขาย โดยที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายจากสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% ซึ่งเชื่อว่าจะกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับมาได้จากจุดเด่นเรื่องความสะดวก
พร้อมกันนั้น บริษัทยังคงจะเร่งการขยายสาขาร้านค้าปลีกภายใต้แบรนด์เซเว่น อิเลฟเว่นตามแผน โดยในช่วงปี 51-52 จะเพิ่มจำนวนสาขาปีละ 450 สาขา ตามเป้าหมายเพิ่มจำนวนสาขาเป็น 5,200 สาขาภายในปี 52 จากปัจจุบันที่มี 4,281 สาขา เพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท
นายสุวิทย์ กล่าวว่า ในปีนี้จะเน้นการขยายสาขาปริมณฑลมากกว่าการเปิดสาขาใน กทม.เนื่องจากปัจจุบันย่านปริมณฑลขยายตัวและเติบโตสูงจากการกระจายระบบสาธารณูปโภคที่เข้าไปมากขึ้น เช่น รถไฟฟ้า การขยายถนน นอกจากนั้น การเปิดสาขาในย่านปริมณฑลช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เนื่องจากค่าเช่าถูกกว่าใน กทม.ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทที่จะพยายามลดค่าใช้จ่ายลง และในกทม.ก็มีการแข่งขันค่อนข้างสูง
นอกจากนี้บริษัทจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งในเรื่องค่าใช้จ่ายให้ลดลง ถึงแม้ปัจจุบันต้นทุนบริษัทจะเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นทำให้บริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านขนส่งเพิ่ม แต่ก็ได้มีการเจรจากับเจ้าของสินค้าในการเข้ามาช่วยแบกรับภาระดังกล่าวด้วยแล้ว
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มเติมในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและส่งสินค้าให้กับร้านค้าปลีกที่เป็นสาขาร้านเซเว่น อิเลฟเว่น ได้เร็วขึ้นแต่ยังอยู่ระหว่างการเลือกทำเลว่าจะจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่จังหวัดใด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณทั้งสิ้น 500 ล้านบาท
ส่วนกิจการที่ประเทศจีนยังคงอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างการลงทุนในธุรกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์อยู่ แต่จะตัดขาดทุนจากการลงทุนในโลตัส ได้ภายใน พ.ค.ปีนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ