บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองดัชนีหุ้นไทยสำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 พ.ย.) มีแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,635 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนนอกรอบการประชุม G20 และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดรวมถึงเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2561 บันทึกการประชุมนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ยอดขายบ้านใหม่ รวมถึงรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค. ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน พ.ย.ของจีนและญี่ปุ่น และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (19-23 พ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวปลายสัปดาห์ แต่ยังปิดต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,622.10 จุด ลดลง 0.79% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 8.04% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 37,105.89 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 2.15% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 399.19 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดต่ำกว่าสัปดาห์ก่อน ขณะที่กลุ่มนักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายเกือบตลอดสัปดาห์ตามทิศทางของตลาดหุ้นในต่างประเทศ และความความกังวลต่อความไม่แน่นอนของการเจราจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่ ตัวเลขจีดีพีไทยไตรมาส 3/2561 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ก็กดดันบรรยากาศของตลาดในภาพรวม นอกจากนี้ การปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก เพิ่มแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ รับข่าวที่สะท้อนถึงประเด็นความคืบหน้าเกี่ยวกับการเลือกตั้ง