(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวน ราคาน้ำมันร่วงแรงกดดันกลุ่มพลังงาน-ปิโตรฯ แต่ปัจจัยคืบหน้าการเมืองหนุนให้มีแรงซื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 26, 2018 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน โดยดัชนีฯอาจจะปรับตัวลงก่อน เนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงแรงมากเกือบ 8% ทำให้ไปกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มปิโตรเคมี แต่เชื่อว่าน่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาด้วย จากปัจจัยในประเทศเรื่องความคืบหน้าทางการเมืองที่นายกรัฐมนตรีออกมาระบุว่าจะไม่เลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 24 ก.พ.2562 อีกทั้ง 7 ธ.ค.จะมีการหารือกับพรรคการเมืองคาดว่าจะปลดล็อคให้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้บวกได้ค่อนข้างดี นำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นขึ้นนำ ส่วนประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ขณะนี้ทางาผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ได้เห็นชอบร่างข้อตกลงฯแล้ว ต่อไปก็อยู่ที่สภาอังกฤษจะต้องเห็นชอบด้วย ซึ่งก็มีความวิตกกันว่าอาจจะไม่ผ่านคงต้องรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

พร้อมให้ติดตามการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. ซึ่งให้จับตาการเจรจานอกรอบระหว่างจีนและสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,610 ถัดไป 1,595-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 พ.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,285.95 จุด ลดลง 178.74 จุด (-0.73%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,632.56 จุด ลดลง 17.37 จุด (-0.66%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,938.98 จุด ลดลง 33.27 จุด (-0.48%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 1.14 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 171.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.79 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.84 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 12.11 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 พ.ย.61) 1,622.10 จุด เพิ่มขึ้น 17.70 จุด (+1.10%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 581.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 พ.ย.61) ปิดที่ 50.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 4.21 ดอลลาร์ หรือ 7.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 พ.ย.61) ที่ 4.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.06 อ่อนค่าหลังดอลล์แข็งเทียบทุกสกุลหลัก ตลาดจับตาถ้อยแถลงประธานเฟดกลางสัปดาห์นี้
  • ร.ฟ.ท.ตั้งงบสีแดงอ่อน (Missing Link) 4.4 หมื่นล้าน โดยเผื่องานก่อสร้างช่วงคลองแห้ง สถานีจิตรลดาไว้ 4 พันล้านกันพลาดหากผู้ชนะรถไฟเชื่อม 3 สนามบินทำล่าช้า ขีดเส้นตอกเข็ม 1 ปี ย้ำเป็นจุดสำคัญที่เชื่อมสาย สีแดงจากบางซื่อ-หัวลำโพง ชงบอร์ด 20 ธ.ค.อนุมัติก่อนเสนอคมนาคม
  • คลังเล็งชง ครม. 4 ธันวาเคาะซื้อล้อยางรถใหม่ได้ลดหย่อนภาษี พร้อมฟื้นช้อปช่วยชาติ รมว.เกษตรฯเร่งแก้ ปัญหาให้ อปท.ใช้งบทำถนนยาง
  • "พาณิชย์" จ่อรายงาน ครม.เกาะติดสถานการณ์การค้า หลังยอดคำสั่งซื้อสินค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซ เดือน ต.ค.2561 ทะยาน 19.2% อานิสงส์กิจกรรม 11.11 ยันไม่มีมาตรการกีดกันการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคแน่
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 63 อาจส่งผลกระทบต่อกลุ่มผู้ครอบครองทรัพย์สินมากแต่มีรายได้น้อย หรือทรัพย์สินอยู่ในทำเลศักยภาพที่ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น สีลม สุขุมวิท ถือเป็นแรงกดดันให้ผู้ครอบครองทรัพย์สินต้องอาจขายที่ดินในภาวะที่ดินท่ามกลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ต้องเผชิญปัญหาต่าง ๆ ทั้งกำลังซื้อครัวเรือน ทิศทางอัตราดอกเบี้ย และมาตรการคุมสินเชื่อบ้านของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
  • การบินไทยวิกฤตเครื่องบินเสีย จอดโบอิ้ง 787-8 รอซ่อม 5 ลำ กระทบไฟลต์ดีเลย์ ต้องยืมเครื่องไทยสมายล์บินแทน ชี้ซื้อฝูงใหม่ต้องรอสภาพัฒน์อนุมัติก่อน และต้องระมัดระวังจากฐานะการเงินของบริษัท เล็งฟ้องเรียกค่าเสียหายโรลส์รอยซ์ หรือต่อรองให้ลดราคาซื้อเครื่องใหม่

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TASCO (กรุงศรี) แนะนำ"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเป้าหมายสูงสุด Consensus 18 บาท เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเนื่องจากจะทำให้ต้นทุนในการผลิตยางมะตอยลดลงตามไปด้วยส่งผลบวกต่อมาร์จินและกำไรให้กลับมาฟื้นตัว
  • PTTGC (กสิกรไทย) แนะนำ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 92 บาท มีมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตรากำไร PX และส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการไตรมาส 3/61 รายงานกำไรสุทธิที่ 1.28 หมื่นลบ. หรือเพิ่มขึ้น 29% YoY และ 18% QoQ สูงกว่าประมาณการของเราอยู่ 10% และสูงกว่าที่ตลาดคาด 10% ทำให้ประมาณการของตลาดจะค่อนไปข้างบวก
  • CK (ไอร่า) ราคาเป้าหมาย 32.50 บาท เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของบริษัทร่วมทุน แม้ได้รับผลกระทบจากงานประมูลที่ล่าช้าทำให้รายได้งานก่อสร้างชะลอตัว เนื่องจากเป็นการรับรู้รายได้จาก Backlog เดิมที่บางโครงการอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้สัดส่วนรับรู้รายได้ยังไม่มาก แต่ CK ได้รับประโยชน์จากบริษัทร่วมทุนส่งผลให้กำไรสุทธิยังอยู่ในระดับที่ดี คาดกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 1,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%จากปี 60 และคาดเพิ่มขึ้น 4.5% ในปี’62 คาดอยู่ที่ 2,031 ล้านบาท และคาด Backlog สิ้นปี 61 ประมาณ 47,400 ล้านบาทยังเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ปี 62 ประมาณ 31,448 ล้านบาท +5% จากประมาณการปี 61 ขณะที่คาด CK มีโอกาสได้รับงานใหม่เข้ามาจากโครงการต่างๆ ที่ทยอยเปิดประมูลนับจากปลาย Q3/61 เป็นต้นไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ