นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการ บมจ. โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) หรือ PTL กล่าวว่า บริษัทคาดว่าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ในครึ่งปีหลังของงวดปี 61/62 (ต.ค.61-มี.ค.62) จะเติบโตเพียง 1-2% ซึ่งถือว่าเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (เม.ย.61-ก.ย.61) เนื่องจากเข้าสู่ช่วงของโลว์ซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งจะมีวันหยุดยาวค่อนข้างมาก ส่งผลต่อความต้องการใช้แผ่นฟิลม์ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตาม ในงวดปี 61/62 บริษัทยังคงเป้าปริมาณการขายผลิตภัณฑ์จะเติบโต 2-3% จากปีก่อน เป็นไปตามความต้องการใช้แผ่นฟิล์มทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เติบโต 5-6% ต่อปี
สำหรับราคาวัตถุดิบปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน โดยราคาวัตถุดิบคิดเป็นสัดส่วน 60-65% ของต้นทุนแผ่นฟิล์ม แต่ขณะนี้บริษัทยังสามารถคงราคาขายไว้ให้อยู่ในระดับสูงได้จากภาพรวมความต้องการใช้แผ่นฟิล์มที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังต้องติดตามดูความต้องการใช้แผ่นฟิล์มอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในระยะยาวราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลงอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทต้องปรับราคาขายตามไปด้วยเพื่อสะท้อนให้กับต้นทุน แต่หากความต้องการใช้แผ่นฟิล์มยังเติบโตบริษัทก็จะคงราคาขายไว้ตามเดิม
นายอมิต ยังกล่าวอีกว่า ในไตรมาส 2 ของงวดปี 61/62 (ก.ค.-ก.ย.61) บริษัทได้เริ่มเดินเครื่องผลิตแผ่นฟิล์ม Blown PP กำลังการผลิตประมาณ 4,000 ตัน/ปี เพื่อเพิ่มชนิดของผลิตภัณฑ์และฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ และช่วยสนับสนุนปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ทั้งปีเติบโตได้ตามคาดการณ์
"เรายังคงมุ่งเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม และปรับปรุงสายการผลิตในไทย รวมถึงติดตามการลงทุนของอุตสาหกรรมที่มีความต้องการนำแผ่นฟิล์มของเราไปใช้ และการลงทุนของผู้เล่นใหม่ๆ"นายอมิต กล่าว