ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดร่วงลงต่ำกว่า 6,000 จุดวันนี้ (11 ม.ค.) นับเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยนักลงทุนได้เทขายหุ้นแบงค์และเหมืองแร่ชั้นนำ และไม่ให้ความสนใจกับปัจจัยชี้นำที่เป็นบวกจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดต่ำกว่าระดับ 6,000 จุดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และตกลงไปแล้ว 5.7% ในปีนี้ นับเป็นจุดเริ่มที่ย่ำแย่ของปี
ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้นเกือบ 1% เมื่อวานนี้ หลังจากที่นายเบน เบอร์นานเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้ให้สัญญาว่าจะลงมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน
ริค คลุสแมน หัวหน้าฝ่ายเทรดดิ้งของบล. เอคิวส์ กล่าวว่า ดัชนีดาวโจนส์ที่ปรับตัวขึ้นแสดงให้เห็นถึงความเป็นเหตุเป็นผล เนื่องจากมีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีก และเราก็จะได้เห็นตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลบ 97.1 จุด หรือ 1.6% ปิดที่ระดับต่ำของวันที่ 5,981.6 จุด หลังจากแตะระดับสูงที่ 6,096.9 จุด
ตลาดร่วงมากกว่า 12% จากระดับสูงสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. เนื่องจากความวิตกกังวลที่มากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้มูลค่าหุ้นกลับมาอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลมากขึ้น
แอนดรูว์ ซิคเบน์ หัวหน้าหลักทรัพย์ออสเตรเลียที่อินเตอร์สวิส กล่าวว่า ตลาดกำลังได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นเกินไปก่อนหน้านี้ โดยอัตราพีอีเริ่มที่จะอยู่นอกระดับเฉลี่ยเมื่อเปรียบเทียบตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจค่อนข้างสดใส
หุ้นแบงค์ใหญ่ๆปรับตัวลงอีก เนื่องจากมีความกังวลเรื่องการลงทุนในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ หลังจากที่ได้มีการรายงานว่า ธนาคารรายใหญ่ๆได้ปล่อยเงินกู้ให้กับคันทรีไวด์ บริษัทปล่อยกู้จำนองของสหรัฐที่ประสบปัญหาอย่างหนัก
หุ้นเวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป ร่วง 60 เซนต์ หรือ 2.3% หุ้นคอมมอนเวลท์ แบงค์ อ่อนตัวลง 1.9% หุ้นออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป อ่อนตัวลง 1.5% และหุ้นเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ ขยับลง 0.3%
หุ้นเหมืองแร่ชั้นนำอย่างบีเอชพี บิลลิตัน ตกลง 2% และหุ้นริโอ ทินโต รร่วง 1.9% หลังจากที่มีการเทขายในตลาดโลหะลอนดอน และความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์และโลหะพื้นฐานลดลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--