ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,630.77 จุด เพิ่มขึ้น 8.67 จุด (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 33,744.44 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,631.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,616.97 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 760 หลักทรัพย์ ลดลง 536 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 514 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ขึ้นมาได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่อยู่ในแดนบวก ทั้งที่ตลาดบ้านเราได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันร่วงแรง แต่ก็มีแรงซื้อหุ้น SCC และกลุ่มแบงก์มาช่วยหนุนตลาดฯ
อย่างไรก็ดี วอลุ่มเทรดโดยรวมยังไม่มาก เนื่องจากนักลงทุนต้องการรอ 3 ปัจจัยทั้งเรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ร่างข้อตกฯที่ทางสภาอังกฤษจะอนุมัติให้ผ่านหรือไม่ 2.รอถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้ จับตาการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 62 และ 3. การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในการหารือนอกรอบการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย.) นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้างหลังจากที่ 2 วันที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,620-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,891.14 ล้านบาท ปิดที่ 448.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,758.59 ล้านบาท ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,700.03 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,328.52 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,209.80 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท ลดลง 1.50 บาท