นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เอสไอเอสบี (SISB) เปิดเผยว่าผลการเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ราคาหุ้นละ 5.20 บาท ระหว่างวันที่ 22-23 และ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากนักลงทุน และผู้ปกครองที่ได้รับการจัดสรรในส่วนอุปการคุณของบริษัทฯ เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่านักลงทุนจะมีความวิตกกังวลและอ่อนไหวในสภาวะของหุ้น IPO ในปัจจุบันก็ตาม
ขณะที่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันแสดงความสนใจสูงถึง 14 เท่า มากกว่าจำนวนที่บริษัทฯ จัดสรรให้จำนวน 110 ล้านหุ้น สะท้อนถึงความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อหุ้น SISB ซึ่งอยู่ในธุรกิจการศึกษามีแนวโน้มการเติบโตอย่างมั่นคง ทั้งรายได้และกำไร ขณะที่มีกระแสเงินสดที่ดี และเป็นหุ้น Recurring Income อย่างแท้จริง
"ในงวด 9 เดือนปี 61 บริษัทมีรายได้รอรับรู้กว่า 630 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรอรับรู้รายได้ที่แน่นอน และที่ผ่านมารายได้รวมเติบโตเฉลี่ยกว่า 20% และอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 30-40% ขณะที่แนวโน้มธุรกิจการศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนนานาชาติอยู่ในทิศทางการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง เมื่อดูจากจำนวนโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นปีละ 6-8% ขณะที่ช่วง 2-3 ปีก่อนบริษัทได้มีการลงทุนไปกว่า 1,200 ล้านบาทแล้ว เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ต้นทุนส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นต้นคงที่เกือบทั้งหมดซึ่งประกอบไปด้วยค่าบุคคลากรครู ค่าเสื่อมราคา ค่าเช่า ซึ่งจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตอย่างมั่นคง ดังนั้น มั่นใจว่า เมื่อหุ้น SISB เข้า เทรดในตลาดเอ็มเอไอ วันที่ 29 พ.ย.นี้ จะให้ผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน "นายสมภพ กล่าว
นาย ยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB กล่าวว่า เงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปชำระคืนหนี้และเพิ่มศักยภาพ และพัฒนาให้โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ในเครือข่าย เพื่อให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นโรงเรียนชั้นนำระดับประเทศและภูมิภาค โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนนักเรียนทั้งหมดภายในกลุ่มให้มากกว่า 4,000 คน ภายใน 3-5 ปี จากปัจจุบันที่มีนักเรียน 2,334 คน และเพิ่มโอกาสในการร่วมลงทุนทั้งในประเทศ และกลุ่มภูมิภาค CLMV รวมถึงจีน
"การระดมทุนครั้งนี้จะได้รับเงินมูลค่ารวม 1,352 ล้านบาท บริษัทฯจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ปลดล็อกภาระหนี้จากเดิมมีภาระดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี ต่อจากนี้จะกลายเป็นบริษัทปลอดหนี้ ดังนั้นการระดมทุนจะทำให้เพิ่มศักยภาพในการทำกำไรมากขึ้น และเงินส่วนที่เหลือจะนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจการศึกษา ปรับปรุงอาคาร และสถานที่ให้มีความทันสมัย พร้อมกับนำไปพัฒนาหลักสูตรให้เทียบเท่ากับมาตรฐานระดับสากล และจะช่วยให้นักเรียนมีคุณภาพการศึกษาในระดับที่ดีขึ้นด้วย" นายยิว ฮอค โคว กล่าว
อนึ่ง SISB มีทุนจดทะเบียน 470 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาและบริหารจัดการ รวมทั้งให้บริการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาและเป็นผู้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนในระบบตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน ประเภทโรงเรียนนานาชาติ โดยบริษัทฯเป็นเริ่มนำหลักสูตรการศึกษาของประเทศสาธารณรัฐสิงคโปร์มาใช้เป็นหลักสูตรพื้นฐานในการเรียบกรสอน รวมทั้งมีจุดเด่นในการจัดการเรียนการสอนแบบ 3 ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ จีน และไทย
ปัจจุบันบริษัทมีโรงเรียนนานาชาติที่บริษัทฯได้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงเรียนรวม 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เอกมัย และบริษัทร่วมทุนในลักษณะกิจการร่วมค้าอีก 1 โรงเรียน คือ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เชียงใหม่ รวมมีโรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัททั้งหมด 5 โรงเรียน ซึ่งเปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นก่อนประถมศึกษา(เตรียมอนุบาล) จนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 สามารถรองรับนักเรียนสูงสุดถึง 4,175 คน