PRECHA คาดรายได้-กำไรปี 51-52 ดีขึ้น,ปีนี้เปิด2โครงการใหม่-ปรับราคาขาย

           บมจ.ปรีชากรุ๊ป (PRECHA) คาดจะพลิกมีกำไรได้ในปี 52 หลังจากมีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเริ่มเข้ามาและโครงการที่จะเปิดใหม่ในกลางปีนี้ พร้อมเตรียมปรับขึ้นราคาขายบ้านในโครงการใหม่ 5-8% ตามต้นทุนที่สูงขึ้น ประกอบกับมีกลยุทธปรับลดขนาดโครงการให้เล็กลงเพื่อให้รับรู้รายได้ได้เร็วขึ้น 
          นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมศึกษาแนวทางการปรับปรุงธุรกิจด้วยการเพิ่มทุน รวมทั้งลดพาร์หรือแตกพาร์เพื่อแก้ไขปัญหาขาดทุนและเพิ่มสภาพคล่อง คาดว่าจะมีข้อสรุปในไตรมาส 1/52  
          นายวรยุทธ์ พงษ์สุวรรณ กรรมการ PRECHA คาดว่า จะเริ่มเห็นทิศทางรายได้ที่ดีขึ้นในปี 51 และในปี 52 จะเริ่มมีกำไร เพราะจะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ"พีจี พระราม 9 คอนโดมีเนียม ที่มีมูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในช่วงกลางปีนี้ 
          รวมทั้งโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/51 มูลค่ารวมประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวมาจากปีก่อน ทั้งโครงการบ้านเดี่ยวคือ "ปรีชา รามคำแหง 1" มูลค่าโครงการ 300-400 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมย่านพระราม 9 มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ทั้งสองโครงการจะมีอัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 3-5% สูงกว่าโครงการเดิม 
          ทั้งนี้ บริษัทจะหันมาพิจารณาที่ดินพัฒนาโครงการแนวราบมากกว่าแนวสูง เพราะราคาที่ดินแนวสูงติดรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาสูงมาก อย่างเช่นย่านสุขุมวิทราคาสูงถึงประมาณ 2 แสนบาท/ตารางวา ซึ่งปรับราคาขึ้นมาถึง 2 เท่าจากก่อนหน้านี้ที่เคยอยู่ในระดับประมาณ 6-8 หมื่นบาท/ตารางวา รวมทั้งการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่กันมาสร้างโครงการคอนโดมิเนียมกันมากขึ้น
          นายวรยุทธ์ กล่าว่า ในปี 51 นี้บริษัทมีแผนในการปรับขึ้นราคาขายบ้านเพิ่มขึ้น 5-8% โดยเฉพาะโครงการที่ก่อสร้างใหม่ในปี 51 หลังจากที่บริษัทได้ประเมินสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์พบว่าต้นทุนค่าก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้น ประมาณ 10% จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในการปรับราคาคงจะไม่สามารถปรับได้มากเพราะภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ยังไม่ดี  
          นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนปรับขนาดโครงการให้เล็กลงมาอยู่ที่มูลค่าโครงการประมาณ 600-800 ล้านบาทหรือประมาณ 30-50ไร่ จากเดิมโครงการส่วนใหญ่ของบริษัทจะมีมูลค่าประมาณ 1-2 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการขนาดเล็กจะทำให้สามารถโอนและรับรู้รายได้ได้เร็ว เพราะปัจจุบันบริษัทมีโครงการเก่าที่ยังโอนไม่หมดอยู่อีก 
          สำหรับโครงการเก่าของบริษัท ได้แก่ โครงการปรีชาร่มเกล้า และโครงการปรีชาสุวินทวงศ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่เปิดขายไปตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา คาดว่าคงจะสามารถปิดโครงการในปี 52 ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมียอดขาย แต่อัตราการขายลดลงเนื่องจากสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไม่ดี ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชะลอลง โดยปัจจุบันเหลือบ้านรอการขายอยู่โครงการละประมาณ 100 ยูนิต 
          นายวรยุทธ์ กล่าวว่า ผลดำเนินงานในปี 50 รายได้คงจะลดลงมาอยู่ที่ 400-500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ว่าจะมีรายได้ประมาณ 600-800 ล้านบาท เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว รวมทั้งการรับรู้รายได้ทั้งหมดยังเป็นโครงการแนวราบ ซึ่งจะยังไม่เห็นกำไรในปีนี้ แม้ในไตรมาส 4/50 จะขาดทุนลดลงเพราะมีการโอนการรับรู้จากโครงการบางส่วนเท่านั้น แต่บริษัทยังมีภาระดอกเบี้ยจ่ายจากโครงการเก่าที่ยังขายไม่หมด และในปี 51 ก็อาจจะยังขาดทุนอยู่ แต่น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ