(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: วิตกขาดทุนซับไพรม์ ฉุดฮั่งเส็งปิดร่วง 363.85 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 11, 2008 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ (11 ม.ค.) ตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆในสหรัฐจะเปิดเผยยอดการตัดบัญชีหนี้สูญเป็นวงเงินมูลค่ามหาศาลในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) เมื่อมีการรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า
รายงานของสื่อระบุว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค อาจประสบภาวะขาดทุนกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการรายงานผลประกอบการสัปดาห์หน้า
สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดร่วงลง 363.85 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 26,867.01 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 27,593.70 และ 26,725.95 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1.28 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง
นักลงทุนไม่สนใจการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่กล่าวเป็นนัยว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ให้ความสำคัญกับกระแสข่าวการตัดบัญชีหนี้สูญจำนวนมหาศาลของสถาบันการเงินชั้นนำต่างๆในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ตลาดกลับมาผันผวนอีกครั้ง
"ตลาดโดยรวมไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาลงของสหรัฐในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ทำให้ตลาดกลับมาวิตกกังวลมากขึ้น" คาสเตอร์ ปัง นักยุทธศาสตร์จากซัน ฮุง ไก ไฟแนนเชียลกล่าว
ทั้งนี้ เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.50% ในการประชุมนโยบายของธนาคารในเดือนนี้ เพื่อป้องกันมิให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
"เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กอาจดีดตัวขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีก แต่เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่ฟื้นตัวขึ้นเพราะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวก็ได้" ปังกล่าว
ปังคาดการณ์ว่า ตลาดจะยังคงผันผวนต่อไปอีกในสัปดาห์หน้า โดยดัชนีอาจจะไม่เคลื่อนตัวผ่านระดับ 27,800 จุด
หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ลดลง 2.70 ดอลลาร์ หรือ 2.1% วาณิชธนกิจยูบีเอสของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการต่อหุ้นของธนาคารลงสู่ระดับ 6% อันเป็นผลมาจากประสบภาวะขาดทุนที่เกิดขึ้นในธุรกิจของบริษัทซึ่งดำเนินการในสหรัฐ
หุ้นกลุ่มบริษัทที่พึ่งพาการส่งออกปรับตัวลดลง อันเป็นผลมาจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอลงเกินคาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาจก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอย
หุ้นซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ยังคงปรับตัวลดลงหลังจากที่ได้ร่วงลงเมื่อวานนี้ หลังจากที่รัฐบาลจีนเตรียมตรึงราคาเชื้อเพลิงเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และหุ้นได้ร่วงลงอีกครั้งในวันนี้ โดยร่วงลง 28 เซนต์ หรือ 2.6%
ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากช่องว่างระหว่างราคาน้ำมันดิบโลกที่พุ่งสูงขึ้นและราคาผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นควบคุมในจีน
"มีกระแสข่าวในตลาดว่าน้ำมันดิบอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 120 ดอลลาร์ต่อลิตรในปีนี้ แต่บรรดาผู้กลั่นน้ำมันในจีนยังคงปรับใช้ราคาน้ำมันควบคุมอยู่ ซึ่งก็จะทำให้ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจำนวนมาก" ปังกล่าว
โดยหุ้นปิโตร ไชน่า ลดลง 28 เซนต์ หรือ 2%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ