ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รับหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนใหม่เป็นหุ้นสามัญของ บมจ.เอสไอเอสบี ชื่อย่อหลักทรัพย์ SISB จะเข้าซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ เริ่มทำการซื้อขายตั้งแต่ 29 พ.ย.61 จำนวนหุ้นจดทะเบียน 940,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 ทุนชำระแล้ว 470,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 260,000,000 หุ้น จัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 234,000,000 หุ้น กรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย (ESOP) จำนวน 26,000,000 หุ้น ในราคา IPO ที่ 5.20 บาท
SISB ประกอบธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งใช้หลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์เป็นหลักสูตรพื้นฐาน โดยได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียนตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน ปัจจุบันมีโรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัท 5 โรงเรียน
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ SISB มั่นใจว่าหุ้น SISB จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนมีความเข้าใจในลักษณะธุรกิจ และโครงสร้างรายได้ที่มีความสม่ำเสมอไม่ผันผวนของธุรกิจโรงเรียนมากขึ้น รวมทั้งบริษัทมีโอกาสเติบได้โตอีกมาก เพราะจากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปชำระคืนหนี้ซึ่งจะประหยัดภาระดอกจ่ายปีละประมาณ 30 ล้านบาท และจะทำให้ SISB เป็นบริษัทที่ปลอดหนี้ (Debt Free) ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุนที่มีภาระดอกเบี้ยลดลงเหลือต่ำกว่า 0.5 เท่า จากเดิม 2.97 เท่า ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีความมั่นคงและแข็งแรงมากขึ้น
"ฐานะการเงิน SISIB มีความแข็งแกร่ง อัตรากำไรขั้นต้นสูงเกือบ 40% ล่าสุดในงวด 9 เดือนปี 61 อยู่ที่ระดับ 38.79% ด้วยการเติบโตของจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น เพราะต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่คงที่ ขณะที่ EBITDA สามารถเติบโตได้ทุกๆ ปี โดย 9 เดือนอยู่ที่ 187.69 ล้านบาท และหลัง IPO ภาระดอกเบี้ยจะลดลง ทำให้กำไรสุทธิปรับตัวขึ้น ถือเป็นหุ้นที่มีคุณสมบัติเป็น Growth Stock ของจริง"นายสมภพ กล่าว
นอกจากนี้ การมีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด mai จะทำให้เข้าถึงแหล่งทุนที่มีต้นทุนต่ำ สามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้มีความทันสมัย และมีศักยภาพในการรับนักเรียนเพิ่มได้มากถึง 4,000 คน ภายใน 3-5 ปี จากปัจจุบันที่มีนักเรียนทั้งกลุ่มอยู่ประมาณ 2,334 คน จะเห็นว่า SISB มีความพร้อมในด้านเงินทุน ที่จะพัฒนาการเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ในอนาคต
นาย ยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB เปิดเผยว่า หุ้นของ SISB พร้อมเข้าทำการซื้อขายในตลาด mai วันพรุ่งนี้ มั่นใจว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งมีผู้บริหาร และทีมงานมีประสบการณ์ด้านการจัดการธุรกิจการศึกษากว่า 17 ปี รวมทั้งเป็นผู้นำหลักสูตรการเรียนการสอนของประเทศสิงคโปร์ติดอันดับ TOP 5 ของโลกเข้ามาใช้เป็นหลักสูตรในไทยรายแรก
สำหรับผลการดำเนินงาน ล่าสุดงวด 9 เดือนของปี 61 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 71.54 ล้านบาท สูงสุดรอบ 3 ปี (58-60) โดยในปี 58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.43 ล้านบาท ปี 59 มีกำไรสุทธิ 69.83 ล้านบาท และปี 60 มีกำไรสุทธิ 17.92 ล้านบาท ทั้งนี้ สาเหตุที่กำไรปี 60 ลดลงส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมและภาระดอกเบี้ย
"ที่ผ่านมา SISB มีรายได้โตสม่ำเสมอ เฉลี่ยสูงถึง 20% ต่อปี ล่าสุด 9 เดือนของปีนี้มีรายได้รวม 690 ล้านบาท และมีรายได้รอรับรู้ในมืออีกประมาณ 636 ล้านบาท เป็นรายได้จากค่าธรรมเนียมแรกเข้า และค่าธรรมเนียมในการศึกษา ซึ่งจะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปีเฉลี่ยประมาณ 250 คนต่อปี มีค่าธรรมเนียมการศึกษาเฉลี่ยต่ออยู่ที่ 4 แสนบาทต่อปีต่อคน จึงทำให้ SISB มีรายประจำสม่ำเสมอต่อเนื่อง หรือ Recurring Income อย่างแท้จริง"นายยิว ฮอค โคว กล่าว
ส่วนแนวโน้มธุรกิจการศึกษาอยู่ในทิศทางที่ดี ซึ่งจำนวนโรงเรียนนานาชาติในไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 6-8% ปัจจุบันอยู่ที่ 182 แห่ง ขณะที่จำนวนนักเรียนในระบบโรงเรียนนานาชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเชื่อว่าธุรกิจโรงเรียนนานาชาติยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก