นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มหันมาสนใจการใช้พลังงานทางเลือกมากขึ้น ทำให้"เสนาโซลาร์"วางเป้าหมายการเติบโตในแต่ละปี เฉลี่ย 5-10 % โดยในปี 61 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 480 ล้านบาท และในปี 62 คาดว่าจะมีรายได้ 500 ล้านบาท และในปี 63 คาดว่าจะมีรายได้ 520 ล้านบาท"
จากนโยบายที่รัฐบาลส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และไลฟ์ไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทรนด์ การผลิตรถยนต์ในอนาคต ทำให้คาดการณ์ว่าความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) ในระยะ 5 ปีข้างหน้า จะมีแนวโน้มของการขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งตรงกับแผนดำเนินงานของ SENA ที่หันมาให้ความสำคัญของการประหยัดพลังงาน เป็นนโยบายหลักที่จะทำให้ "บ้านทุกหลัง" ของ SENA ใช้พลังงานสะอาดโดยใช้โซลาร์เซลล์
ปัจจุบัน SENA ได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และ เครื่องชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (EV Charger ) ภายใต้ชื่อ EV ready รองรับยานยนต์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทั้งแบบไฮบริด และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าชนิดแบตเตอรี่ (BEV) ให้กับลูกค้า โดยตั้งเป้าจะติดตั้งให้ได้ทุกโครงการ
ทั้งนี้ การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนดังกล่าวเป็นไปตามทิศทางของโลกที่ให้ความสำคัญต่อพลังงานสีเขียว พึ่งพาพลังงานทดแทนมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า เทรนด์การใช้ชีวิตที่จะเกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด ได้รับการตอบรับจากทุกภาคธุรกิจ ที่จะเข้ามานำเสนอนวัตกรรมรองรับรูปแบบการใช้พลังงานสะอาดที่เปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจแนว Go Green ของ SENA
นอกจากการติดตั้งแผง Solar Cell เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้าน(โซลาร์รูฟท็อป) แล้ว ยังนำนวัตกรรม "โซลาร์ สเกล อัพ (Solar Scale Up)" ที่ช่วยให้ลูกบ้านสามารถปรับ-เพิ่มจำนวนแผง Solar Cell ได้ตามลักษณะการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อีกทั้งยังสามารถเลือกช่วงเวลาของการใช้ไฟฟ้า ได้ตามพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยในบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยประหยัดค่าไฟ และตอบโจทย์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ลูกบ้านสามารถบริหารค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของกระทรวงพลังงาน ระบุว่า ในปัจจุบันกระแสไฟฟ้ายังคงเป็นทางเลือกหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ โดยมีอัตราการใช้งานสูงถึง 42% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเป็น 47% ในปี 78 เนื่องจากปัจจัยการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของประชากร การปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพที่ดีขึ้น ทำให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวันมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการด้านต่างๆของมนุษย์ นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มหันมาสนใจใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า แทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบเดิม ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้สัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงขึ้น
สำหรับโครงการที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charger Station) ภายในโครงการของ SENA ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม เพื่อบริการให้กับลูกบ้าน ได้แก่ เสนาพาร์คแกรนด์ รามอินทรา, เสนาพาร์ควิลล์ รามอินทรา – วงแหวน, เสนาวิลล์ ศาลายา, เสนาอเวนิว บางกะดี – ติวานนท์ ,เสนาช็อปเฮ้าส์ พหลโยธิน – คูคต, เสนาช็อปเฮ้าส์ลำลูกกา – คลองสอง, เสนาช็อปเฮ้าส์ บางแค – เทอดไท และคอนโดมิเนียม ได้แก่ นิช โมโน สุขุมวิท 50, นิช โมโน พีค บางนา, และมีเป้าหมายที่จะขยายให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมการบริการมากขึ้น