นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายการเงินและบัญชี บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) กล่าวว่า บริษัท คาดว่ารายได้ปี 62 จะเติบโต 3% เมื่อเทียบกับปีนี้ จากจำนวนผู้โดยสารที่คาดจะเติบโต 3% และอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) คาดจะอยู่ในระดับ 70% ใกล้เคียงกับปีนี้ เนื่องจากยังคงเผชิญกับสภาพการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง ส่งผลต่อราคาตั๋วโดยสารปรับตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการปรับตัวทำให้ยังคงประคองราคาให้เติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะในเส้นทางบิน CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม)
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่มเติมอีกในปีหน้า จำนวน 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางบินกรุงเทพ-แคม รัช (เวียดนาม) จำนวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเส้นทางบินเชียงใหม่-กระบี่ จำนวน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเส้นทางบืนสมุย-ไทเป จำนวน 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ขณะที่ยังมีแผนเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางบินกรุงเทพ-ดานัง เป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิม 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนรับมอบเครื่องบินอีกจำนวน 4 ลำ เพื่อทดแทนการปลดระวางเครื่อง ATR72-500 โดยจะรับมอบเครื่องบิน ATR72-600 เข้ามาทดแทน ซึ่งจะส่งผลให้การบริหารจัดการได้ดีขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีจำนวนฝูงบินรวมทั้งสิ้น 39 ลำ และมีพันธมิตรทางการบิน (Code share) อยู่ที่ 27 สายการบิน
ขณะที่บริษัทยังคงทำสัญญาประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันไว้ที่ 50-80% ซึ่งจะรองรับการใช้น้ำมันไปจนถึงไตรมาส 3/62 โดยมีการซื้อที่ราคาเฉลี่ย 84 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยมองทิศทางราคาน้ำมันยังคงปัรบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่สายการบิน ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอเข้าประมูลสัมปทานบริหารพื้นที่ร้านค้าปลอดภาษีอากร (ดิวตี้ฟรี) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดว่าทาง AOT จะสามารถเปิดประมูลได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างครัวการบิน ที่จ.เชียงใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ในไตรมาส 2/62 และการลงทุนโรงซ่อมบำรุงอากาศยานที่สนามบินสุโขทัย คาดจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 1/62
นายอนวัช กล่าวว่า ส่วนผลการดำเนินงานในปี 61 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 1% จากปีก่อนอยู่ที่ 2.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 9 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.16 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะเติบโต 1% และอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสารที่จะอยู่ที่ 70% จาก 9 เดือนทำได้แล้ว 69%
ขณะที่มองแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 น่าจะเติบโตกว่าไตรมาส 3/61 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังคงเดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยอยู่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 33% ของนักท่องเที่ยวโดยรวม ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 70% และอีก 30% จะเป็นนักท่องเที่ยวในประเทศ
ด้านแผนการซื้อหุ้นคืนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยมีจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนจำนวนไม่เกิน 40 ล้านหุ้น หรือจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.61-6 มี.ค.62 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการทยอยซื้อหุ้นคืนไปแล้วบางส่วน หรือคิดเป็น 25 ล้านหุ้น ในวงเงินจำนวน 300 ล้านบาท คาดว่าจะยังคงทยอยเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องตามแผน