ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เมื่อวันที่ 11 ม.ค.51 มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประกอบกิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (SBL) และการขายหลักทรัพย์ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง และทำให้ตลาดหลักทรัพย์มีเสถียรภาพมากขึ้น
คณะกรรมการ ก.ล.ต.เห็นชอบให้กำหนดเกณฑ์การประกอบธุรกิจ SBL สามารถยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์ทั้งที่อยู่ภายใต้การจัดการของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ในประเทศและในต่างประเทศได้
นอกจากนี้ สามารถเพิ่มเติมประเภททรัพย์สินที่วางเป็นหลักประกัน ให้ครอบคลุมถึง ก) เงินสดทุกสกุล ข) หลักทรัพย์จดทะเบียนทุกประเภท ยกเว้นใบสำคัญแสดงสิทธิต่างๆ และ ค) หน่วยลงทุนของกองทุนเปิดที่เปิดขายหรือรับซื้อคืนทุกวันทำการ รวมทั้งสามารถนำเงินที่ได้รับจากการขายชอร์ตมาวางเป็นหลักประกันได้ด้วย
และกำหนดสัดส่วนของยอดหนี้ที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จะให้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์และให้ยืมหลักทรัพย์ แก่ลูกค้ารายย่อยรายใดรายหนึ่ง เมื่อสิ้นวันต้องไม่เกิน 25% ของเงินกองทุนของ บล. และเมื่อรวมลูกค้าทุกรายแล้วต้องไม่เกิน 5 เท่าของเงินกองทุนของ บล. เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในการให้กู้ยืม
รวมถึงยกเลิกหลักเกณฑ์ที่เป็นภาระ เช่น การแจ้งวัตถุประสงค์ในการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และการห้ามยืมหรือให้ยืมหลักทรัพย์เพื่อนำไปขายในคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ เป็นต้น
ในส่วนของหลักเกณฑ์การขายชอร์ตหลักทรัพย์ ที่ประชุมปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ลูกค้าสามารถขายชอร์ตผ่านบัญชีเงินสดได้ จากเดิมที่ให้ขายผ่านบัญชีมาร์จิ้นเท่านั้น โดย บล.ต้องมั่นใจว่าลูกค้ามีการยืมหลักทรัพย์ไว้แล้วและลูกค้าจะสามารถส่งมอบหลักทรัพย์ได้ภายในเวลาที่กำหนด รวมทั้งได้เพิ่มช่องทางให้ลูกค้าสามารถยืมหลักทรัพย์ได้ทั้งจาก บล.และจากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อส่งมอบกรณีผิดนัด
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--