นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล. เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) มองตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ ( 3-7 ธ.ค.) ว่าหลังการเจรจาการค้าระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับจีนที่ผลออกมาคือทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้เวลา 90 วันในการเจรจาทำข้อตกลง โดยสหรัฐฯจะเลื่อนการบังคับใช้ภาษีนำเข้า 2 แสนล้านเหรียญฯ ในอัตรา 25% ต่อจีนออกไปก่อน ขณะที่จีนตกลงที่จะเพิ่มการนำเข้าสินค้ากลุ่มเกษตร , อุตสาหกรรมและน้ำมันจากสหรัฐฯในทันที พร้อมกับเจรจาในปัญหาในเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Technology transfer) และการละเมิดสินทรัพย์ทางปัญญากับคณะทำงานของสหรัฐฯ
แม้สงครามการค้ายังไม่ยุติอย่างแท้จริง แต่ตลาดน่าจะมีมุมมองในเชิงบวกว่าสงครามการค้าน่าจะจบลงได้แล้ว และคาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกน่าจะปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ของสัปดาห์นี้ รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่จะได้แรงบวกจากเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า เช่น กลุ่มที่อิงรายได้กับส่งออก หรือราคาสินค้าเกษตรบางตัว น่าจะได้แรงบวกกลับมา
ส่วนทิศทางราคาน้ำมัน หลังจากประเทศรัสเซียกับซาอุดิอาระเบีย ส่งสัญญาณในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน แต่ต้องรอผลการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในวันที่ 6 ธ.ค. ว่าจะลดกำลังการผลิตลงเท่าใด ซึ่งคาดว่า OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 33.3 ล้านบาร์เรลลง 1.0-1.4 ล้านบาร์เรล/วัน และต้องจับตาดูว่าหลังจากลดกำลังการผลิตแล้วราคาน้ำมันจะขึ้นได้มากเท่าใด อย่างไรก็ตาม ผลบวกจากการเจรจาการค้าสหรัฐฯ น่าจะส่งผลบวกต่อราคาน้ำมัน รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่นๆในสัปดาห์นี้
ด้านปัจจัยในประเทศ ณ ตอนนี้ โบรกเกอร์ต่างประเทศหลายแห่งเริ่มกลับมาแนะนำให้ลงทุนในตลาดเกิดใหม่อีกครั้ง หลังสถานการณ์ตลาดโลกเริ่มนิ่งขึ้น KTBST คาดว่าแรงขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติน่าจะน้อยลง แต่หากยังไม่มีสัญญาณบวกของตลาดหุ้นอย่างจริงจัง คาดว่าแรงซื้อหุ้นจากนักลงทุนต่างประเทศจะยังไม่มากในเดือน ธ.ค.นี้ หรือเป็นเพียงเข้ามาเก็งกำไรเป็นรอบๆ เท่านั้น คาดกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีฯ ในสัปดาห์นี้ที่ 1,630-1,680 จุด
ขณะที่เรื่องกำหนดการเลือกตั้งคาดว่าหลังจากวันที่ 12 ธ.ค จะมีการปลดล็อกการเคลื่อนไหวทางการเมืองและการประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากการคาดการณ์มีแนวโน้มที่ผู้สนับสนุนรัฐบาลชุดปัจจุบันจะได้เสียงข้างมาก จึงเป็นบวกต่อตลาดในช่วงนี้ แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือแนวโน้มการเมืองและทิศทางเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้งว่าจะออกมาในรูปแบบใด ดังนั้น KTBST จึงไม่คิดว่าตลาดหุ้นจะขึ้นแรงนักในช่วงก่อนการเลือกตั้ง คาดว่าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีจะอยู่ที่ระดับ 1,700 จุด
ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ จึงมองว่าตลาดอาจปรับตัวบวกแรงในวันแรกของสัปดาห์รับข่าวผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีน ซึ่งหุ้นที่มีแนวโน้มจะปรับตัวขึ้นมากคือกลุ่มที่เคยได้รับผลกระทบจากเรื่องสงครามการค้าก่อนหน้านี้ ขณะที่หุ้นอื่นๆ จะเป็นบวกตามภาวะตลาดที่เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาบ้างแล้ว สัปดาห์นี้ KTBST แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่เคลื่อนไหวอิงภาวะตลาด โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ KBANK , BJC, PTTEP, GULF, AOT, TISCO รวมถึงหุ้นที่ได้ผลบวกจากการเจรจาการค้าสหรัฐฯกับจีน ได้แก่ HANA, KCE, TVO