(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดลบ 1.6 จุดตามดาวโจนส์

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดอ่อนตัวลงในวันนี้ (14 ม.ค.) เนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไรได้ช่วยบรรเทาผลกระทบจากการเทขายอย่างหนักในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
          นักลงทุนยังได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลการโฆษณาหางานของออสเตรเลียที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธ.ค. และอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดสัญญาณที่ชัดเจนว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียกำลังขยายตัวอย่างแข็งแกร่งแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะมีแนวโน้มถดถอย
          จูเลียน่า โร้ดลีย์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของคอมม์เสค กล่าวว่า ตลาดหุ้นออสเตรเลียยังไม่ได้อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เหมือนกับสหรัฐ 
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดลบ 1.6 จุด ปิดที่ 5,980.0 จุด หลังจากปรับตัวในช่วง 5,904.3-6,015.5 จุด ปริมาณการซื้อขายใกล้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยผู้จัดการกองทุนและโบรกเกอร์ส่วนใหญ่กลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากเทศกาลคริสต์มาสและซัมเมอร์ผ่านพ้นไป โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.55 พันล้านหุ้น มูลค่า 5.42 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
          ทั้งนี้ ตัวเลขการลงโฆษณาหางานในหนังสือพิมพ์รายใหญ่และอินเทอร์เน็ตในออสเตรเลียพุ่งถึง 7.1% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ระดับใหม่ที่ 274,653 ตำแหน่งต่อสัปดาห์ ผลการสำรวจรายเดือนของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ปเปิดเผย
          ส่วนอัตราเงินเฟ้อรายเดือนตามมาตรวัดของสถาบันทีดี ซิเคียวริตีส์ ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติที่ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.และต.ค.
          ข้อมูลดังกล่าวเมื่อรวมกับยอดขายปลีกที่แข็งแกร่งเกินคาด ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
          หุ้นกลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งดังกล่าว หุ้นเวสฟาร์เมอร์ส พุ่ง 84 เซนต์ หรือ 2.2% หุ้นวูลเวิร์ทบวก 33 เซนต์ หรือ 1.0% และหุ้นเจบี ไฮ-ไฟ บวก 66 เซนต์ หรือ 5.3%
          หุ้นนิวเครสท์ ไมนิ่ง พุ่ง 50 เซนต์ หรือ 1.3% และหุ้นลีฮีร์ โกลด์ ขยับขึ้น 4 เซนต์ หรือ 1.0% หลังจากที่ราคาโลหะมีค่าปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชีย
          หุ้นเหมืองแร่ชั้นนำอย่างบีเอชพีปรับตัวลง 6 เซนต์ หรือ 0.2% ส่วนหุ้นริโอทินโต ขยับลงจากระดับสูงระหว่างวันที่ 127.50 ดอลลาร์ ปิดอ่อนตัวลง 60 เซนต์ หรือ 0.5%