ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงในวันนี้ (14 ม.ค.) โดยดัชนีดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลต่อผลกระทบที่เลวร้ายยิ่งขึ้นจากวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐ รวมถึงการรายงานตัวเลขผลประกอบการของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลกในสัปดาห์นี้
โดยนักลงทุนเริ่มจับตาการประกาศตัวเลขผลประกอบการของบริษัทซิตี้กรุ๊ป และเมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นที่คาดกันว่า ทั้งสองบริษัทจะรายงานตัวเลขการตัดบัญชีหนี้สูญมูลค่ามหาศาล นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับผลกระทบจากภาวะขาลงในตลาดหุ้นจีนที่เป็นผลจากความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางจีนจะใช้มาตรการคุมเข้มทางการเงินเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรในช่วงเช้า แต่ปัจจัยหนุนดังกล่าวยังไม่มากพอที่จะช่วยพยุงให้ดัชนีทรงตัวในระดับสูงได้ ทำให้ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการร่วงลงในวันนี้เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดลบ 16.39 จุด หรือ 0.9% แตะที่ระดับ 1,765.88 จุด หลังจากเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,754.13 - 1,790.69 จุด โดยระดับปิดในวันนี้เป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.2550 ซึ่งดัชนีอ่อนตัวลงมาแตะ 1,759.50 จุด
ปาร์ก จอง-ฮุน นักวิเคราะห์จากวูริ อินเวสเม้นท์ แอนด์ ซีเคียวริตี้กล่าวว่า "นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลต่อวิกฤตสินเชื่อสหรัฐที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะคลี่คลายได้ในเร็ววัน"
"ดูเหมือนว่าตลาดจะยังคงมีแรงเทขายกระหน่ำเข้ามาอย่างหนัก และตลาดน่าจะยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตสินเชื่อต่อไป แต่การที่ดัชนีร่วงลงดูเหมือนจะช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อทำไรได้ในภายหลัง" นายปาร์กกล่าว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในวันนี้มีอยู่อย่างเบาบาง ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนจำนวนมากยังมีท่าทีหวั่นวิตกต่อวิกฤตการณ์ดังกล่าว โดยมีปริมาณการซื้อขายเพียง 245 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 4.5 ล้านล้านวอน
หุ้นแอลจี ฟิลิปส์ แอลซีดี ปิดอ่อนตัวลง 1.3% โดยบริษัทผู้ผลิตจอภาพแบนรายนี้ได้รายงานตัวเลขผลประกอบการรายไตรมาสสี่หลังจากปิดตลาดซึ่งพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.69 แสนล้านวอน ซึ่งเหนือกว่าระดับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 8.032 แสนล้านวอน
ด้านหุ้นกลุ่มต่อเรือปิดร่วงลงจากแรงเทขายของนักลงทุน หลังจากที่หุ้นกลุ่มนี้เคลื่อนไหวโดดเด่นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยหุ้นฮุนได เฮฟวี่ปิดร่วงลง 6.6% และหุ้นซัมซุง เฮฟวี่ปิดดิ่งลง 4.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นปอสโคปิดขยับขึ้น 0.8% เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะเป็นไปอย่างสดใส
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--