นายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส (PPS) กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 25% จากปีนี้ หลังจากบริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติ คือ One work Asia ซึ่งเป็นบริษัทสถาปนิกชั้นนำจากสิงคโปร์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและเทคโนโลยี โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และพันธมิตรถือหุ้นในสัดส่วน 49%
การร่วมทุนครั้งนี้เพื่อขยายธุรกิจการบริหารงานก่อสร้างให้ครบจงจร และมุ่งเน้นการบริหารให้มีความเป็นสากล โดยบริษัทฯ คาดว่าหลังจากการร่วมทุนกันในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯ สามารถขยายการเข้าไปรับงานที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น จากเดิมที่สามารถรับงานได้ราว 400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีความสนใจเข้าไปรับงานในลักษณะเป็นซัพพลายเออร์ในปีหน้า โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐ ในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ โครงการท่าเรือ, โครงการสนามบินอู่ตะเภา และรถไฟฟ้าต่างๆ เป็นต้น อีกทั้งงานของภาคเอกชน บริษัทฯ ยังคงมองการเข้ารับงานก่อสร้างในส่วนของศูนย์การค้า เช่น Bangkok Mall เป็นต้น
ส่วนความคืบหน้าการขยายการเข้ารับงานในต่างประเทศ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งบริษัทฯ จะขยายไปตามลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการศูนย์การค้าในประเทศไทย ที่มีแผนจะลงทุนก่อสร้างศูนย์การค้าในประเทศเวียดนาม ในช่วงปลายปี 62
"เรามองอุตสาหกรรมก่อสร้างในปีหน้าจะเป็นปีที่สดใส จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการใน EEC ซึ่งเราให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากน่าจะทำได้เร็ว ไม่ชะลอออกไปเหมือนโครงการอื่น ๆ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโต 25% และยังคงเป้าหมายรายได้ปี 65 จะเติบโตแตะ 1,000 ล้านบาท"นายพงศ์ธร กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 400 ล้านบาท ใกล้เคียงจากปีก่อนที่อยู่ที่ 398.33 ล้านบาท เนื่องจากงานโครงการของสนามบินสุวรรณภูมิชะลอออกไป ส่งผลทำให้การรับรู้รายได้ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 400 ล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้บางส่วน และที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปีหน้า
ขณะที่วันนี้ PPS ได้ร่วมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (TCA) จัดงาน INNOCON BANGKOK 2018 เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีกับการพัฒนาอุตสาหกรรมก่อสร้าง ในรูปแบบการเสวนาหัวข้อ "ทิศทางของการออกแบบในประเทศไทยและเทคโนโลยีที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญแห่งอนาคต" ผ่านมุมมองผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ เทคโนโลยีในงานก่อสร้างมีการพัฒนาอย่างไม่หยุด โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการสินทรัพย์ Building Information management (BIM) ที่สามารถใช้ในงานออกแบบ งานวิศวกรรม และงานก่อสร้าง โดยจะช่วยในการประหยัดเวลาการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุน และยังสามารถขยายการใช้งานอื่นๆ เช่น การนำเสนอเพื่อการขาย การบริหารจัดการอาคารระหว่างใช้ รวมถึงการบริหารจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่