STI เคาะราคาเสนอขายหุ้น IPO หุ้นละ 6.30 บาท คิดเป็น P/E ที่ 29.76 เท่า จองซื้อ 6-7,11 ธ.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 4, 2018 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า บมจ. สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ (STI) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 68 ล้านหุ้นที่ราคา 6.30 บาท/หุ้น โดยมีระยะเวลาเสนอขายในวันที่ 6-7 และ 11 ธ.ค.61 มูลค่ารวมของหุ้นสามัญใหม่ที่เสนอขาย 428.40 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)

การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ แบ่งเป็นบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ จำนวนประมาณ 51 ล้านหุ้น คิดเป็น 75% ของที่เสนอขาย, ผู้มีอุปการคุณของบริษัท จำนวนประมาณ 10.20 ล้านหุ้น คิดเป็น 15% ของที่เสนอขาย และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนประมาณ 6.80 ล้านหุ้น คิดเป็น 10% ของที่เสนอขาย โดยมี บล.เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการจัดจำหนายและรับประกันการจำหน่าย และมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.เคที ซีมิโก้, บล.เอเชียพลัส และ บล.กรุงศรี

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 6.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็น P/E เท่ากับ 29.76 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.60 ถึงวันที่ 30 ก.ย.61 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 56.73 ล้านบาท เมื่อหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เท่ากับ 268.00 ล้านหุ้น (Fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.21 บาท อย่างไรก็ตาม P/E ratio เฉลี่ยในช่วงเวลา 12 เดือนย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.60 ถึงวันที่ 22 พ.ย.61 ของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกันกับการประกอบธุรกิจของบริษัทเท่ากับ 19.84 เท่า

วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ คือ เพื่อลงทุนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนา อบรมทักษะความรู้สำหรับพนักงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 40 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินภายในปี 2563, ใช้ลงทุนอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมด้านการออกแบบ ควบคุมงาน และการเงิน-การบัญชี เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 30 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินภายในปี 2563, ใช้ลงทุนงานระบบ และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ จำนวนเงินที่ใช้โดยประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เงินภายในปี 2564 และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

STI ประกอบธุรกิจเป็นที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง (Consulting and Project Management) และให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรม (Architectural Design) และวิศวกรรม (Engineering Design) งานตกแต่งภายใน (Interior Design) และงานอนุรักษ์โบราณสถาน (Historical Conservation)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ