ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดตลาดปรับตัวลดลงในวันนี้ (14 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารพาณิชย์ชั้นนำต่างๆในสหรัฐจะเปิดเผยยอดการตัดบัญชีหนี้สูญเป็นวงเงินมูลค่ามหาศาลในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกค้าที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) เมื่อมีการรายงานผลประกอบการช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้วในสัปดาห์นี้
โดยคาดกันว่า เมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ รายงานของสื่อระบุว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์และเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โค อาจประสบภาวะขาดทุนจากวิกฤติซับไพรม์มากกว่านี้ และต้องได้รับการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างเร่งด่วน
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดร่วงลง 69.20 จุด หรือ 2.1% ปิดที่ 3,218.14 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 3,211.40 และ 3,299.69 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขาย 1.92 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.34 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
"ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐยังคงมองหาเงินทุนของรัฐเพื่อเตรียมอัดฉีดเข้าสู่ระบบ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตซับไพรม์ ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างพากันวิตกกังวลมากขึ้น" เค อาจิธ นักวิเคราะห์จากยูโอบี เคย์เฮียนกล่าว
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าซิตี้กรุ๊ปกำลังหาเงินทุนเพิ่มเติมอีก 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยขณะนี้ธนาคารกำลังอยู่ในการเจรจากับบรรดานักลงทุนสำคัญๆ ซึ่งรวมถึงบรรษัทเพื่อการลงทุนแห่งรัฐบาลสิงคโปร์ (Government of Singapore Investment Corp : GIC) เจ้าชาย อัลวาลีด บิน ทาลัลของซาอุดิอาระเบีย และไชน่า ดีเวลอปเมนท์ แบงค์
หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นแกนนำให้ดัชนีร่วงลงในวันนี้ โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วงลง 60 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบี ร่วงลง 52 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ลดลง 22 เซนต์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังคงปรับตัวลดลง โดยหุ้นแคปิตอล แลนด์ ลดลง 25 เซนต์ หุ้นซิตี้ ดีเวลอปเมนท์ ร่วงลง 68 เซนต์ และหุ้นเค็พเพล แลนด์ ลดลง 30 เซนต์
ส่วนหุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ลิมิเต็ด ดีดตัวขึ้นภายหลังร่วงลงก่อนหน้านี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการของบริษัทจะยังคงแข็งแกร่ง โดยหุ้นได้เพิ่มขึ้น 6 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--