นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล (TM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 62 จะเติบโตราว 5% จากปีนี้ ตามคำสั่งซื้อสินค้าประเภทใช้แล้วทิ้ง (disposable) และเครื่องมือการแพทย์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมคาดว่าจะเติบโตได้ 5-10%
อย่างไรก็ดี บริษัทมีแผนการปรับลดสัดส่วนธุรกิจที่มีความสามารถในการทำอัตรากำไรต่ำหรือไม่ทำกำไรออกเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมรายได้ราว 50-60 ล้านบาท แต่บริษัทก็ได้เพิ่มการขายสินค้าอื่น ๆ และการเป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อเข้ามาทดแทนธุรกิจดังกล่าว โดยตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิปี 62 จะเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันอยู่ราว 8.06%
ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทใช้ในห้องผ่าตัดเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 40-50% จากปัจจุบันอยู่ราว 30% ซึ่งจะเน้นการเพิ่มประเภทสินค้าที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วย เช่น ถุงมือผ่าตัดใช้แล้วทิ้งแบบไม่มีแป้ง ซึ่งจะลดโอกาสการติดเชื้อในผู้ป่วยได้มาก
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนก่อสร้างสถานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินรองรับแล้ว เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 50-100 เตียง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างไตรมาสที่ 1/62 เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่ม B+ ส่วนในระยะถัดไปบริษัทมีแผนลงทุนเพื่อขยายสาขากระจายตามเมืองใหญ่มากขึ้น
นางสุนทรี กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศ 2 ราย ในญี่ปุ่นและไต้หวันเพื่อเข้ามาตั้งโรงงานผลิตสินค้าประเภทใช้แล้วทิ้งในไทย ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากสิทธิภาษี จากปัจจุบันบริษัทมีการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากพันธมิตรอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าพันธมิตรทั้งสองรายยังต้องใช้เวลาศึกษาการลงทุน ยังไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้เร็ว ๆ นี้ นอกจากนี้บริษัทยังศึกษาแนวทางขยายธุรกิจทางการแพทย์ให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
"การแข่งขันในอุตสาหกรรมอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ โดยผู้ประกอบการผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ หรือผู้ประกอบการนำเข้าอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายรายอื่นทดแทนได้ ทำให้เรามีการคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากบริษัทผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และจำหน่ายในราคาที่เหมาะสมเพื่อการแข่งขันในตลาดได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว"นางสุนทรี กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 660 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 628.48 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองที่มีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ สามารถทำรายได้รวมได้แล้ว 469.88 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังยังเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจโรงพยาบาล ส่งผลให้บริษัทจะได้รับออร์เดอร์มากขึ้น ประกอบกับโรงพยาบาลรัฐบาลมีงบประมาณออกมาในช่วงเดือนต.ค. ส่งผลให้บริษัทจะได้รับออร์เดอร์จากโรงพยาบาลรัฐบาลที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน