บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 บริษัทได้ยื่นเข้าสู่กระบวนการ ฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ. 2/2551 และขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอให้ศาลพิจารณารับคำร้อง และศาลล้มละลายกลางได้
กำหนดวันนัดพิจารณาคำร้องในวันที่ 17 มีนาคม 2551 เวลา 9.00 น.
PICNI ระบุว่าบริษัทมีภาระหนี้อยู่กับสถาบันการเงินต่างๆ และได้มีการรายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบ ปรากฏว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการที่เจ้าหนี้ของบริษัทได้ทำการอายัด และยึดทรัพย์สินของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทรัพย์สินที่ทำการยึดและอายัดประกอบด้วย เงินสด หุ้นของบริษัท เอ็นเนซอล จำกัด และหุ้นของบริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินการของเจ้าหนี้ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องในการดำเนินกิจการ และบริษัทได้ขอให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทเมื่อวานนี้
อนึ่ง บริษัทขอเรียนเพิ่มเติมว่า งบการเงินประจำปี 2550 ซึ่งเป็นงบภายในของบริษัทมีส่วนทุนติดลบเป็นเงินจำนวนประมาณ 1,258 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง รวมทั้งมีสินทรัพย์ลดลงซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทถูกบังคับโอนหุ้นเวิลด์แก๊ส ให้กับเจ้าหนี้ของบริษัทอีกด้วย ดังนั้น เมื่อผู้สอบบัญชีดำเนินการจัดทำงบการเงินของบริษัทเรียบร้อยแล้ว จะได้แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงคงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) หลักทรัพย์ของ PICNI ต่อไป จนกว่า PICNI จะนำส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านการตรวจสอบ จากผู้สอบบัญชี ซึ่งจะครบกำหนดส่งภายในวันที่ 29 ก.พ. 51 เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อฐานะทางการเงินและการดำเนินงานของ PICNI กล่าวคือ PICNI มีผลประกอบการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขาดสภาพคล่องจากการอายัดและยึดทรัพย์โดยถูกบังคับโอนหุ้นเวิลด์แก๊สให้กับเจ้าหนี้ และอาจทำให้งบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ของ PICNI มีส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์ ซึ่งจะส่งผลให้หลักทรัพย์ของ PICNI เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--