นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโต 16% มาที่กว่า 42,000 ล้านบาท ตามการรับรู้การจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ สปป.ลาว จำนวน 15 เมกะวัตต์ (MW) คาดจะสามารถ COD ได้ในไตรมาส 1/62 , โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศเวียดนาม จำนวน 2 โรง กำลังการผลิต 420 เมกะวัตต์ และ 257 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ในเดือนมิ.ย.62 และโรงไฟฟ้า SPP (ABP1) จำนวน 166 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 5 เมกะวัตต์ คาดจะ COD ได้ในช่วงปลายปีหน้า ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 2,939 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าที่ COD อยู่ที่ 45 แห่ง จากสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2,076 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าที่ COD จำนวน 40 แห่ง
ทั้งนี้ ยังรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง จำนวน 3 แห่ง กำลังการผลิตแห่งละ 130 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 31 เมกะวัตต์ เข้ามาเต็มปี โดยโครงการดังกล่าวมีการ COD ในไตรมาส 4/61 อย่างไรก็ตามมองผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/61 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/61 ตามการ COD โรงไฟฟ้าเข้ามาเพิ่ม 2 แห่ง ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการปิดซ่องบำรุงโรงไฟฟ้าตามปกติ ได้แก่ โรงไฟฟ้าที่อมตะซิตี้ จ.ชลุบรี โรง 2, 3, 4 และบี.กริม พาวเวอร์ แหลมฉบัง
นอกจากนี้บริษัทยังคงเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 65 แม้ว่าในขณะนี้จะสามารถ COD ได้เกือบ 3,000 เมกะวัตต์แล้วก็ตาม จากปัจจุบันที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมืออยู่ที่ 3,126 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามบริษัทยังต้องหา PPA เข้ามาเพิ่มเติมเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว โดยอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ ก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ประเทศเกาหลี ไต้หวัน ลาว ฟิลลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย รวมถึงประเทศไทย
บริษัทคาดว่าจะเห็นความชัดเจนการลงทุนในประเทศเกาหลีก่อน โดยคาดจะสามารถเซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับพันธมิตรในประเทศเกาหลี สำหรับการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม ได้ในช่วงต้นปี 62 ซึ่งเบื้องต้นบริษัทจะเข้าถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 50% และจะมีการลงทุนเริ่มต้นจำนวน 30 เมกะวัตต์
นางปรียนาถ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าบริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ Green Bond มูลค่า 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ชุด อายุ 5 ปี และ 7 ปี ดอกเบี้ย 4-4.5% เพื่อลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทให้ต่ำลง จากปัจจุบันที่มีต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ที่ 4.6% โดยคาดจะรับรู้ต้นทุนทางการเงินใหม่เข้าในปี 62