ARROW ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โตไม่ต่ำกว่า 10% หลังขยายกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น, อัตรากำไรสุทธิแตะ 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 11, 2018 12:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธานินทร์ ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอร์โรว์ ซินดิเคท (ARROW) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโตราว 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ราว 1,500 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจหลักประเภทท่อร้อยสายไฟฟ้าแบบโลหะที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่จะเริ่มดำเนินโครงการในปี 62 รวมถึงโครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินที่คาดว่าจะมีโครงการออกมาให้บริษัทเสนอราคามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง

ขณะเดียวกันบริษัทพยายามจะสร้างยอดขายให้มีการเติบโตเพื่อชดเชยกับการที่อัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิลดลง โดยบริษัทเชื่อว่าธุรกิจท่อร้อยสายไฟฟ้ายังแข็งแกร่ง เนื่องจากมีการส่งมอบสินค้าให้ตรงเวลา และท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินที่จะเติบโต เพราะบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิต และมีโอกาสจะได้งานรับเหมาในโครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินอีกด้วย โดยคาดในปี 62 จะมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแตะระดับ 10% ได้

นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมเดินเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิตท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรองรับความต้องการท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินจากโครงการของภาครัฐ และโครงการรถไฟฟ้า โดยจะขยายเป็น 1 ล้านเมตรต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 3 แสนตันต่อปี ด้วยงบลงทุนราว 12 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ประเภทท่อลม PID ที่ใช้ในระบบปรับอากาศ ซึ่งเป็นการซื้อเทคโนโลยีเครื่องจักร และแบรนด์สินค้าจากประเทศจีน มูลค่าลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อเป็นการเข้ามาทำการผลิต และจะรองรับออร์เดอร์งานท่อแอร์ในอาคารสำนักงาน รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม ,โรงพยาบาล และโรงแรม

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/61 บริษัทเชื่อว่ายังสามารถขยายตัวได้เป็อย่างดี เนื่องจากปัจจุบันยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 900ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปี 61 อีกประมาณ 400 ล้านบาท ดังนั้นจึงทำให้คาดว่ารายได้ในปี 61 จะทำได้ประมาณ 1,500 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมนำสินค้าประเภทท่อสแตนเลสที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ออกวางจำหน่าย เพื่อเป็นการเริ่มต้นขยายฐานลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มากขึ้น โดยคาดจะเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าตั้งแต่ในปี 62 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ