นายกวิน กาญจนพาสน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.วีจีไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) เปิดเผยว่า บริษัทร่วมทุน VGI MACO (Singapore) Private Limited ประเทศสิงคโปร์ ได้ร่วมทุนกับ Sinarmas Group ผู้ประกอบธุรกิจยักษ์ใหญ่ในเอเชียตะวันออกฉียงใต้ จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศอินโดนีเซีย โดยVGI MACO (Singapore) Private Limited ประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และ Sinarmas Group ถือหุ้นในสัดส่วน 60% เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแล้วเสร็จได้ในเดือนก.พ.62 และจะมีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 165.40 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทร่วมทุนดังกล่าว จะนำ model ของ VGI platform ที่ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลักคือ สื่อโฆษณา (OOH), ระบบบริการชำระเงิน(Payment) และ Logistic เข้าไปใช้ ซึ่งเบื้องต้นจะเน้นการนำ Payment platform และ OOH เข้าไปใช้ในพื้นที่ของ Sinarmas ซึ่งทั้งหมดนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาระบบต่างๆ เพื่อสร้างแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันให้ได้อย่างเหมาะสมและเกิดประสิทธิผล อย่างไรก็ตามคาดจะใช้งบลงทุนราว 30-40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทฯ จะพิจารณาแผนลงทุนในช่วงไตรมาส 1 งวดปี 62/63
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาทันที่ในปีหน้า และคาดว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุน (เบรกอีเวนท์) ได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
"การดำเนินธุรกิจในประเทศดังกล่าว ในช่วงแรกเราจะมุ่งเน้นการโฆษณาก่อน จากนั้นก็จะขยายไปในด้าน E-payment และ Logistic ตามลำดับ ซึ่งโมเดลการทำธุรกิจก็จะคล้ายกับในไทย คาดว่าประมาณเดือนเม.ย. เราจะมีแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทร่วมทุนออกมา"
อนึ่ง Sinarmas Group ถือว่ามีที่ดิน Township ในประเทศอินโดนีเซียกว่า 40,000 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดที่มีอยู่ 62,500 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศดังกล่าว โดยที่ผ่านมา Sinarmas ได้มีการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Township ) ไปแล้วบางส่วน ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าว ประกอบไปด้วย ระบบขนส่ง เช่น รถไฟรางเบา ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ออฟฟิศ เป็นต้น ทำให้บริษัทฯ ก็มีความสนใจเข้าไปต่อยอดธุรกิจในด้าน e-Payment หรือนำบัตร Rabbit เข้าไปให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว
อีกทั้ง Sinarmas Group ยังมีการดำเนินธุรกิจอีกหลายธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม, ธุรกิจบริการทางการเงิน, ธุรกิจพลังงานและโครงสร้างสาธารณูปโภค, ธุรกิจอาหารและเกษตร และธุรกิจเยื่อกระดาษและกระดาษ ซึ่งธุรกิจดังกล่าวนี้ ถือเป็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
ด้านธุรกิจสื่อโฆษณาในประเทศมาเลเซีย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปลงทุนมาแล้วประมาณ 3 ปี โดย MACO ถือหุ้น75% และ VGI ถือหุ้น 25% ในนาม VGM เริ่มถึงจุดคุ้มทุนและมีกำไรแล้ว ตั้งแต่เดือพ.ย.ที่ผ่านมา โดยในอนาคตยังคงมองหาการลงทุนเพิ่มในระบบ Payment และ Logistic
นายกวิน กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ 3 ปีข้างหน้า จะอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจสื่อโฆษณา อยู่ที่ 60% และอีก 40% จะมาจากธุรกิจที่ไม่ใช่สื่อโฆษณา เช่น Kerry Express, Rabbit เป็นต้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 90:10 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปในส่วนของธุรกิจที่ไม่ใช่สื่อโฆษณามากขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็น Maketing solutions company ครอบคลุมการใช้บริการสื่อโฆษณาแบบครบวงจรอันดับต้นๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยปัจจุบันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) และร่วมทุน (JV) ในธุรกิจที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพ Maketing solutions ทั้งในและต่างประเทศ มากกว่า 10 ราย เบื้องต้นคาดว่าจะเห็นความชัดเจนประมาณ 2 - 3 ราย ในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.62
ส่วนธุรกิจ Kerry Express บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 23% ปัจจุบันมีการบันทึกรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดส่งของประมาณ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งในงวด ปี 62/63 (เม.ย. 62 - มี.ค. 63) บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดส่งของเติบโตเป็นเท่าตัว