นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดกำไรสุทธิในปี 62 จะเติบโตแตะ 100 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโต 50% จากปีนี้ โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจบริการอัดก๊าซไบโอมีเทน (CBG) และ NGV ประมาณ 60% และรายได้จากการขายไฟฟ้าเข้ามาเป็นปีแรกประมาณ 40%
ทั้งนี้ ธุรกิจบริการอัดก๊าซ NGV ในปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดบริการบรรจุก๊าซจะเพิ่มเป็น 600 ตัน/วัน จากสิ้นปีนี้คาดจะมียอดบริการบรรจุก๊าซที่ 580 ตัน/วัน ขณะที่โครงการ CBG Station อ.ชุมพร จ.นครราชสีมา ที่มีกำลังการผลิตไบโอมีเทนอัดรวมที่ 9 ตันต่อวัน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการต่อรองราคาขายกับกลุ่มปตท. คาดจะได้ข้อตกลงและราคาขายที่เหมาะสมภายในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ และจะเริ่มดำเนินการได้ทันที พร้อมรับรู้รายได้เต็มปีในปีหน้า อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นจะเป็นการจำหน่ายให้แก่กลุ่มปตท. ที่ประมาณ 6 ตันต่อวัน ส่วนที่เหลือจะจำหน่ายให้กับบริษัทย่อยทั่วไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าแม่กระทิง (MKP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตรวมที่ 9.9 เมกะวัตต์ (MW) คาดจะเริ่ม COD จำนวน 8 เมกะวัตต์ ได้ภายในเดือนมิ.ย.62
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนในปี 62 ไว้ที่ประมาณ 500-700 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ซึ่งยังไม่นับรวมกับการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ มีแผนเข้าซื้อกิจการในธุรกิจโรงไฟฟ้า ประเภท Renewable โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรอยู่ใน 2 โปรเจ็ค อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายจะขยายกำลังผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 30 เมกะวัตต์ ภายใน 3-5 ปีจากนี้ และจะขยายสถานีบริการอัดก๊าซไบโอมีเทนหรือ CBG และ NGV เพิ่มเป็น 5 แห่ง
นายจักรพงส์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีนี้ โดยบริษัทฯ คาดว่ารายได้และกำไรสุทธิจะใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 333.70 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 73.92 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมที่ 255.31 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 45.16 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3/2561 บริษัทมีการปรับเปลี่ยนเครือขายการขนส่งก๊าซ จึงทำให้รายได้จากการบริการอัดก๊าซ NGV ลดลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับนายทุนรายใหญ่จากประเทศสิงคโปร์ เพื่อขายที่ดินใน จ.สงขลา คาดหวังว่าจะสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน และคาดจะสามารถโอนได้ภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ ส่งผลทำให้บริษัทฯ จะรับรู้กำไรพิเศษเข้ามา และน่าจะช่วยสนับสนุนกำไรสุทธิให้ทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อน
อนึ่ง ที่ดินดังกล่าวมีทั้งสิ้นจำนวน 100 ไร่ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของบริษัทย่อยที่ SKE ถือหุ้น 99.99% โดยนายทุนสนใจซื้อจำนวน 50 ไร่