น.ส.วรตินันท์ วงศ์วัชรานนท์ ผู้จัดการฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยวา (TWPC) กล่าวว่า บริษัทฯ คาดรายได้ปี 62 จะเติบโต 6-8% จากปีนี้ โดยจะมีสัดส่วนรายได้มาจากสินค้าในกลุ่มแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (HVA) เพิ่มเป็น 40% จากปีนี้ที่คาดจะอยู่ที่ 36%, รายได้จากสินค้าในกลุ่มอาหารเพิ่มเป็น 25% จากปีนี้ที่คาดอยู่ที่ 21%
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อในมือรวมประมาณ 30,000-40,000 ตัน มูลค่ารวมประมาณ 450-600 ล้านบาท (ราคา 15,000 บาท/ตัน) คาดจะส่งมอบงานได้ในช่วง 1-2 เดือน อย่างไรก็ตาม ยอดคำสั่งซื้อในมือจะอยู่ที่ระดับดังกล่าว เนื่องจากจะมียอดคำสั่งซื้อใหม่ๆ เข้ามาทดแทนยอดที่ส่งมอบอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้บริษัทฯ จะมุ่งเน้นการขยายตลาดในประเทศจีน ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานกระจายสินค้าในประเทศจีนแล้ว จำนวน 1 สาขา และมีตัวแทนจำหน่ายแล้วใน 5 มณฑล โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายจากประเทศจีนที่ประมาณ 800 ล้านบาทต่อปี รวมถึงมองการขยายตลาดในประเทศด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนรวมไว้ที่ 1,440 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลังเฟส 2 ในประเทศกัมพูชา ขนาดกำลังผลิตที่ 200 ตัน/วัน มูลค่าการลงทุน 500 ล้านบาท คาดจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 63 อีกทั้งจะใช้ในการเพิ่มกำลังการผลิตโรงงานแป้งภายในประเทศ จำนวน 2 โรง มูลค่าการลงทุนรวม 350 ล้านบาท จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50 ตัน/วัน/โรง จากเดิมที่อยู่ที่ 50 ตัน/วัน/โรง รวมถึงจะใช้เป็นงบลงทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 3 โรง มูลค่าการลงทุนรวม 390 ล้านบาท ซึ่งจะช่วนลดต้นทุนการผลิตในอนาคต ส่วนที่เหลือใช้ปรับปรุงเครื่องจักรประมาณ 150-200 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามด้านแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดในมือเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีกระแสเงินสดในมือมูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท และยังมีความสามารถที่จะกู้จากสถาบันการเงินได้อีก ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ระดับ 0.03 เท่า จากนโยบายรักษา D/E ไม่ให้เกิน 0.3 เท่า
สำหรับผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯ คาดรายได้จะเติบโต 17% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 6,475.24 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมแล้วที่ 5,160.07 ล้านบาท จากยอดขายในกลุ่มแป้งมันสำปะหลัง ที่คาดจะเติบโต 20% และยอดขายสินค้ากลุ่มอาหารจะเติบโต 6-7% โดยปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้มาจากการส่งออก 80% ส่วนอีก 20% เป็นรายได้จากการขายภายในประเทศ