RS คาดปี 51 รายได้พุ่งเป็น 3 พันลบ.และมีกำไรได้จากที่ขาดทุนในปี 50

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 15, 2008 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ RS กล่าวว่า คาดว่าปี 51 จะพลิกมีกำไรสุทธิ จากปี 50 ที่คาดว่าจะยังขาดทุน โดยในปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายงานในทุกด้าน และเชื่อว่าธุรกิจลิขสิทธิ์กีฬาและธุรกิจสื่อโฆษณาจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
"คาดว่าไตรมาส 4/50 น่าจะดีกว่าไตรมาส 3 แต่ก็คงไม่สามารถจะ cover ผลขาดทุนทั้ง 9 เดือนได้ โดยภาพรวมแนวโน้มก็น่าจะ loss ส่วนปีนี้เราก็มองว่าต้องดีกว่าปีที่แล้วอยู่แล้ว" นายดามพ์ กล่าว
ขณะที่นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ RS กล่าวว่า ไตรมาส 3/50 ค่อนข้างหนักสำหรับเรา เพราะเจอภาวะเสี่ยงจากสภาพเศรษฐกิจ การนำเข้า Show ต่างประเทศ และยังมาเกิดกรณียกเลิกการแสดงของ David Copperfield ด้วย แต่ไตรมาส 4/50 น่าจะดีขึ้นเพราะไม่มีรายการผิดปกติแล้ว
"คิดว่าปีนี้ (51) ผลประกอบการน่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น ตอนแรกคิดว่าน่าจะดีตั้งแต่ไตรมาสแรก แต่ก็มาเจอเหตุการณ์กระทบตั้งแต่ต้นปี ทำให้ขลุกขลักนิดหน่อย เพราะฉะนั้นตั้งแต่ไตรมาส 2 น่าจะดีขึ้น"นายสุรเชษฐ์ กล่าว
นายสุรชัย กล่าวว่า ปี 51 คาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท เติบโตประมาณ 20-21% จากปี 50 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2.5 พันล้านบาท โดยธุรกิจที่จะเติบโตมากในปีนี้ต่อเนื่องจากปีก่อนคือ ธุรกิจกีฬา ซึ่งหากไม่มีธุรกิจกีฬาภาพรวมของ RS คงจะโตเพียง 5-10% เท่านั้น
ทิศทางการทำธุรกิจของ RS จะยังมุ่งเป้าหมายไปที่ 8 ธุรกิจหลักเช่นเดิม จะไม่มีการเพิ่มหรือขยาย แต่จะเน้นการ Focus และสร้างมูลค่าเพิ่มให้มากขึ้น ซึ่งคาดว่าภาวะเศรษฐกิจในปีนี้แม้จะมีเรื่องเข้ามากระทบบ้างแต่ยังไงก็ดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนธุรกิจบันเทิง เชื่อว่ายังอยู่กับความท้าทายใหม่ๆ และเผชิญหน้ากับความไม่นิ่ง
"แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงใดๆภายนอกจะไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ RS อีกแล้ว เราคงมองไปข้างหน้า หาโอกาส คว้าโอกาส ฉวยโอกาส ที่ต้องทำให้ได้ คือ สร้าง Content แลบริการใหม่ๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค"นายสุรชัย กล่าว
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ RS กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปีนี้ไว้ที่ 30% จาก 25% ในปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างในช่วงที่ผ่านมา เลิกรายการทีวีและคลื่นวิทยุที่ขาดทุนออกไป
สำหรับโครงสร้างรายได้ปี 51 จะมาจาก Content 75% แบ่งเป็นเพลง 20%, Showbiz 20%, Sport 15%, Digital 10% และ Film 10% และรายได้ส่วนที่สอง 25% มาจากธุรกิจมีเดีย แบ่งเป็นวิทยุ 15% ทีวี 7% และสิ่งพิมพ์ 3%
นางพรพรรณ กล่าวว่า ธุรกิจเพลงในปีนี้น่าจะเติบโต 5% ลดลงจากปีที่แล้วที่เติบโต 7% เนื่องจากอุตสาหกรรมเพลงไม่ดีประกอบกับมีการบริโภคลดลง เพราะยังถูกรบกวนจากปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้การขาย CD และ VCD ทำได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มี Project ผลิตอัลบั้มใหม่ของศิลปินเพื่อตอบบสนองผู้ฟังในหลากหลาย segment มากขึ้น อาทิ เจนนิเฟอร์ คิ้ม, สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์
"ศิลปินใหม่คงจะเข้ามาช่วยได้ในส่วนของธุรกิจ Digital ด้วย ทั้งการดาวน์โหลด Ringtone และ Calling Melody ต่างๆมากกว่า"นางพรพรรณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ