โบรกฯเชียร์"ซื้อ"AAV เล็งผลงาน Q4/61 ฟื้นรับ High Season/ระยะสั้นได้ผลบวกจากราคาน้ำมันปรับลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 17, 2018 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เล็งผลงานไตรมาส 4/61 ฟื้นตัวจากไตรมาส 3/61 ที่เป็นช่วง Low Season โดยคาดค่าโดยสารเฉลี่ย (Fare Rate) และ Load Factor ปรับเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล High Season ท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีลุ้นในไตรมาส 1/62 นักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาเที่ยวไทย หลังจากในเดือน ธ.ค.61 จีนยังคงลดลง ซึ่งคาดการณ์กันว่าเดือน ม.ค.62 นักท่องเที่ยวจีนน่าจะกลับมาเที่ยวไทยตามปกติ

ด้านราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมาสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทั้งด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้ และการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันทั้ง 2 ปัจจัยเริ่มคลี่คลายและกลับเป็นบวกมากขึ้น โดยระยะสั้นยังได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างเร็วในช่วงเดือนที่ผ่านมา

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ 775-885 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 550-623 ล้านบาท เนื่องจากปรับต้นทุนราคาน้ำมันลงจากการที่ AAV เริ่มทำ Hedging ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงได้มากขึ้น ในด้านผู้โดยสารคาดว่าจะเพิ่มขึ้น และ Load Factor จะดีขึ้น

ราคาหุ้น AAV ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 4.26 บาท ลดลง 0.04 บาท (-0.93%) ขณะที่ SET -0.35%

          โบรกเกอร์                      คำแนะนำ              ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          เอเอสแอล                      เก็งกำไร                  5.20
          เคทีบี (ประเทศไทย)                ซื้อ                     5.00
          เคที ซีมิโก้                        ซื้อ                     5.00
          แอพเพิล เวลธ์                   ซื้อเก็งกำไร                4.80
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)              ทยอยซื้อ                   4.78

นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ AAV ในไตรมาส 4/61 คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาส 3/61 ที่เป็นช่วง Low Season โดยในไตรมาส 4/61 ดีขึ้นทั้งราคาตั๋วและจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ช่วง High Season อีกทั้งยังมีลุ้นในไตรมาส 1/62 นักท่องเที่ยวชาวจีนจะกลับมาเที่ยวไทย หลังจากในเดือน ธ.ค.61 ยังลดลง แต่คาดการณ์กันว่าจะดีขึ้นสู่ระดับปกติในเดือน ม.ค.62

นอกจากนี้ AAV ยังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงด้วย และปีนี้ AAV เปิดเส้นทางบินใหม่ 20 เส้นทาง โดยจะเน้นไปที่ไตรมาส 4/61 ที่เปิดเส้นทางใหม่ถึง 10 เส้นทาง เน้นเส้นทางไปอินเดีย, CIMV และจีน ส่วนปีหน้ายังคงเน้นเส้นทางไปอินเดีย และ CIMV อีกทั้งยังมีการขยายฝูงบินเพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 61 มีฝูงบิน 63 ลำ และในปี 62 จะมีเพิ่มเป็น 66 ลำ

ทั้งนี้ ได้คาดการณ์ราคาน้ำมันอากาศยาน (JET) ในปี 62 ไว้ที่ 80-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทรงตัวจากปีนี้ พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ไว้ที่ 775 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 623 ล้านบาท

ขณะที่ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯระยะสั้นยังมองเป็นบวกต่อหุ้น AAV ปรับราคาเป้าหมายปี 62 เป็น 5 บาท จากเดิม 4.50 บาท เนื่องจากมีการปรับคาดการณ์กำไรขึ้น ด้านราคาหุ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมากถึง 24% สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้วทั้งด้านราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้านี้และการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันทั้ง 2 ปัจจัยเริ่มคลี่คลายและกลับเป็นบวกมากขึ้น โดยระยะสั้นยังได้รับผลบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างเร็วในช่วงเดือนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ปรับกำไรสุทธิปี 62 เพิ่มขึ้นจากเดิม 11% เป็น 885 ล้านบาท เติบโต 61% เนื่องจากปรับต้นทุนราคาน้ำมันลงจากการที่ AAV เริ่มทำ Hedging ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงได้มากขึ้น ในด้านผู้โดยสารประเมินที่ 23.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9% YoY และ Load Factor จะดีขึ้นเป็น 86% จากปี 61 อยู่ที่ 85% ขณะที่แนวโน้มกำไรสุทธิ Q4/61 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ยังลดลง YoY จากฐานกำไรสุทธิที่สูงในปีก่อน ขณะที่เริ่มได้ผลบวกจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มต่ำกว่าที่เคยประเมิน ทำให้มีการปรับกำไรสุทธิปี 61 ขึ้นเล็กน้อยราว 2% เป็น 550 ล้านบาท แย่ยังลดลง 62% YoY

นอกจากนี้ คาดว่าอัตรา Load Factor ในเดือน พ.ย.61 มีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 86% ดีขึ้นจากเดือน ต.ค.61 ที่ประมาณ 84% ซึ่งปกติเดือน พ.ย.จะต่ำกว่าเดือน ต.ค. และดีขึ้นจาก Q3/61 ที่ 81% แม้ว่าแนวโน้มผู้โดยสารจีนจะยังฟื้นตัวช้า แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ย. ขณะที่ผู้โดยสารจากประเทศอื่นมีอัตราการเติบโตได้ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะอินเดียที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารและ Load Factor ที่ค่อนข้างสูง

สำหรับยอด Advance booking เดือน ธ.ค.61 เข้ามาแล้วค่อนข้างสูงแล้วที่ 60% ส่วนหนึ่งเป็นผลบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ โดยมาตรการยกเลิกค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยว (Visa On Arrival: VOA) 21 ประเทศ เริ่มมีผลบังคับใช้ 15 พ.ย.61 และจะสิ้นสุดในวันที่ 13 ม.ค.62

ส่วน บล.เอเอสแอล เชียร์"เก็งกำไร"หุ้น AAV หลังราคาหุ้นปรับลดลงกว่า 30% ในรอบ 6 เดือน สะท้อนความกังวลต่อผลแนวโน้มผลประกอบการที่ขาดทุน 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยคาดหมายจะเห็นผลประกอบการไตรมาส 4/61 พลิกกลับมาเป็นกำไร แต่ธุรกิจยังมีความเสี่ยงจากภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยวที่ยังคงได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนลดลง, ภาวะการแข่งขันที่รุนแรง เป็นปัจจัยจำกัดการฟื้นตัวของค่าโดยสาร และราคาน้ำมันเครื่องบินที่ปรับเพิ่ม รวมไปถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงยังคงทรงตัวในระดับสูง เป็นปัจจัยจำกัดความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นของบริษัท

ทั้งนี้ ปรับลดกำไรสุทธิปี 61-62 ลงเพื่อสะท้อนภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง และต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 560 ล้านบาท ลดลง 62%YoY ขณะที่ 9 เดือนแรกของปี 61 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 320 ล้านบาท ลดลง 68%YoY จึงคาดหมายจะเห็นผลประกอบการไตรมาส 4/61 พลิกกลับมาเป็นกำไรอีกครั้ง จากการฟื้นตัวของค่าโดยสารเฉลี่ย (Fare Rate) และ Load Factor ที่ปรับเพิ่มตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า และราคาน้ำมันเครื่องบินที่ปรับเพิ่ม ยังคงเป็นปัจจัยจำกัดการฟื้นตัวของผลประกอบการ โดยต้นทุนเชื้อเพลิงคิดเป็น 35-40% ของต้นทุนรวม แม้ปัจจุบันบริษัทจะการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน (Oil Hedging) แต่เป็นสัดส่วนเพียง 13% ของปริมาณน้ำมันที่คาดว่าจะใช้ทั้งหมดในไตรมาส 4/61 ที่ระดับราคา 78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทำให้ต้นทุนเชื้อเพลิงเฉลี่ยคาดว่าจะไม่น้อยกว่า 87 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 3.6%QoQ

ภาพรวมปี 62 บริษัทตั้งเป้าหมายรับเครื่องบินเพิ่ม 7 ลำ (ทดแทนเครื่องเดิมที่มีอายุมากกว่า 12 ปีจำนวน 3 ลำ) แต่บริษัทยังคงคาดว่าจะเห็น Load Factor เพิ่มขึ้นเป็น 86% ด้วยจำนวนผู้โดยสารรวมที่คาดว่าจะไม่น้อยกว่า 23.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9.3%YoY และเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบินเป็น 12.5 ชั่วโมง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ