นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้จัดการ บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 จะเติบโต 6% จากปีนี้ โดยเป็นการเติบโตตามยอดปริมาณการเติบน้ำมันที่สูงขึ้น โดยคาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันจะเติบโต 4% หรือจะมียอดปริมาณเติมน้ำมันประมาณ 6,230 ล้านลิตร จากปี 61 ที่คาดว่าจะมีปริมาณการเติบที่ 5,900 ล้านลิตร เนื่องจากเที่ยวบินในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.ได้วางกลยุทธ์การให้บริการใช้สนามบินที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลากลางคืน โดยเฉพาะสายการบินที่มีระยะทางการบินระดับกลาง จึงส่งผลให้เครื่องบินมีความจำเป็นต้องเติมน้ำมันเพิ่มขึ้น รวมถึงจะทำให้มีปริมาณเครื่องบินเข้ามา เติมน้ำมันมากขึ้น
พร้อมกันนี้ในปี 62 บริษัทจะมีรายได้จากธุรกิจภาคพื้นดินที่เพิ่มขึ้นราว 100 ล้านบาท จากโครงการขนส่งน้ำมันไปทางภาคเหนือ โดยคาดโครงการท่อขนส่งน้ำมันไปภาคเหนือ จกคลังน้ำมัน ที่อ.บางประอิน ถึงจ.ลำปาง โดยแบ่งเป็น 2 เฟส ซึ่ง เฟสที่ 1 จะส่งไปคลังที่ จ.พิจิตร คาดเริ่มดำเนินการไตรมาส 1/62 และเฟส 2 จากสถานีเพิ่มแรงดัน และแยกระบบท่อกำแพงเพชร ไปยังคลังน้ำมันลำปางเปิดดำเนินการไตรมาส 4/62 ซึ่งจะเข้ามาส่งเสริมการเติบโตของรายได้
"ในธุรกิจการบิน ประเทศไทยถือว่าไม่ได้มีเรื่องของฤดูกาลเข้ามากระทบแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังคงมีขีดจำกัดในเรื่องของสนามบิน ซึ่งทาง AOT ได้มีการปรับกลยุทธ์ไปบ้างแล้ว ซึ่งปี 62 เราคาดว่าจะรายได้จากการให้บริการเติมน้ำมันจะเติบโตได้ราว 5% ส่วนที่เหลือจะได้รับการสนับสนุนจาก ธุรกิจภาคพื้นดิน ทำให้เราคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตได้ถึง 6%"นายประกอบเกียรติ กล่าว
นายประกอบเกียรติ กล่าวถึงความคืบหน้าการเข้าประมูล โครงการบริการจัดเก็บ และเติมน้ำมัน ในสนามบินอู่ตะเภาว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการประกาศร่าง TOR จากคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตะวันออก (บอร์ดEEC) โดยคาดว่าจะออกมาในช่วงไตรมาส 2/62 โดยมูลค่าการลงทุนนั้นก็ต้องรอออกมาในช่วงนั้นเช่นกัน ซึ่งบริษัทไม่กังวลเกี่ยวกับเงินลงทุน เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพียง 1.02 เท่า และหนี้จากการลงทุนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะหมดลงในปีนี้ด้วย