นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดว่า ฝ่ายบริหาร ทอท.จะเสนอหลักเกณฑ์การประกวดราคา(ทีโออาร์) พื้นที่เชิงพาณิชย์ ซึ่งมีทั้งร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และพื้นที่ค้าปลีกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อคณะกรรมการบริษัทได้ในเดือน ม.ค.62 และคาดว่าจะรวมการประกวดราคาพื้นที่เชิงพาณิชย์ในท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่และท่าอากาศยานเชียงใหม่มาอยู่ในสัญญาเดียวกัน
ทั้งนี้ หลังจาก ทอท.เลื่อนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (Terminal 2) บริษัทได้ปรับแผนที่จะใช้ทีโออาร์ดิวตี้ฟรี ไม่รวมอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท โดยทีโออาร์จะใช้พื้นที่สัมปทานดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ปัจจุบันกลุ่มคิงเพาเวอร์เป็นผู้ได้รับสัมปทานและสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 27 ก.ย.63 เป็นพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ที่มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทั้งร้านค้าดิวตี้ฟรี และร้านค้าปลีก รวม 2.5 หมื่นตารางเมตร หรือคิดเป็น 5% ของพื้นที่รวมทั้งหมด 5 แสนตารางเมตร และพื้นที่อาคารเทียบเครื่องบิน (Sattlelite 1) มีพื้นที่เชิงพาณิชย์ประมาณ 5% หรือใกล้เคียง 10% ของพื้นที่ทั้งหมดที่มีประมาณ 2.4-2.6 แสนตารางเมตร
"นับจากวันนี้เหลือเวลา 1 ปี 9 เดือน ต้องดำเนินการหาผู้ชนะประมูลภายใน 3-6 เดือน เพราะต้องเหลือเวลา 1 ปี เศษในการดำเนินการ" นายนิตินัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายนิตินัย กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.61) ฝ่ายบริหารจะนำความเห็นจากสำนักงานอัยการสูงสุดจากที่ขอหารือแนวทางดำเนินการจากที่มีข้อพิพาทคดีงานออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ หนังสือความเห็นขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) จากที่บริษัทได้สอบถามความชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A ซึ่งเป็นพื้นที่ที่จะใช้ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 โดยที่เกี่ยวข้องกับ Master Plan ของท่าอากาศยานสุวรรณภุมิ ทั้งนี้ทั้งสองความเห็นได้รับแล้วและจะนำเสนอต่อบอร์ดพิจารณาในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ กลุ่มตวงฤทธิ์ บุนนาค เป็นผู้ชนะการประมูลการออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ซึ่งทางกลุ่มตวงฤทธิ์ จะยืนราคา 329.56 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 61