นายเอก สุวัฒนพิมพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีลิค คอร์พ (SELIC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงจากค่าใช้จ่ายและมีการลงทุนจำนวนมากทั้งด้านบุคลากรและเครื่องจักร และเชื่อว่ากำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดแล้วในปีนี้ จากการลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการดำเนินงาน ขณะที่คาดว่ารายได้ปี 62 ของบริษัทจะทำได้ที่ระดับ 600-700 ล้านบาท จากการเติบโตภายในของบริษัท ประกอบกับเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อกิจการกลุ่ม PMC ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1/62 ก็จะเข้ามาส่งเสริมผลประกอบการบริษัทให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ หลังในปีที่ผ่านมากลุ่ม PMC มีรายได้ 845 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการในกลุ่ม PMC ได้แก่ บริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ จำกัด (PMCT) ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสติกเกอร์ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยใช้กาว กระดาษ และฟิล์ม เป็นวัตถุดิบหลัก และบริษัท พีเอ็มซี เลเบิล แมททีเรีลส์ พีทีอี ลิมิเตด (PMCS) จัดจำหน่ายสติกเกอร์ที่ผลิตจากประเทศไทยไปในประเทศในสิงคโปร์และต่างประเทศ
นายเอก กล่าวว่า ความร่วมมือในการทำงานร่วมกันระหว่าง SELIC และ PMC จะเข้ามาส่งเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน และจะทำให้เกิดการลดต้นทุนทั้งด้านบัญชี (financing cost) และต้นทุนด้านการดำเนินงาน (operating cost) จากทั้งฝ่ายขายและการขนส่งโลจิสติกส์ อีกทั้งยังสามารถเกิดการ cross sale จากปัจจุบันกลุ่ม PMC มีลูกค้าอยู่ราว 800 ราย
อีกทั้งบริษัทจะใช้ฐานของกลุ่ม PMC ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยมองโอกาสการส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย ผ่านเครือข่ายลูกค้าของกลุ่มบริษัท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนธุรกิจกาวน้ำ ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ จากปัจจุบันมองว่ามีมูลค่าตลาดรวมหลายพันล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะมีความชัดเจนในการเริ่มทำการตลาดภายในไตรมาส 2/62 ซึ่งความร่วมมือจากกลุ่ม PMC จะทำให้บริษัทสามารถรุกตลาดได้เร็วมากขึ้น จากความต้องการใช้กาวน้ำจาก PMC ปีละราว 80-100 ล้านบาท