หุ้น BEM ราคาวิ่งขึ้น 3.59% มาอยู่ที่ 10.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.35 บาท มูลค่าซื้อขาย 338.20 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.20 น. โดยเปิดตลาดที่ 9.70 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 10.20 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 9.70 บาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) หลังมีข่าวการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ขยายอายุสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A, B, C, D และ C+ ให้กับ BEM จำนวน 37 ปี (สัมปทานเดิมจะสิ้นสุด 27 ก.พ.63) เพื่อลดหนี้สินข้อพิพาทที่ทางกทพ.มีกับ BEM และมีการปรับสูตรการขึ้นค่าผ่านทางใหม่ โดยให้ปรับขึ้นทุกๆ 10 ปี ในอัตรา 10 บาท ด้านส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้กับกทพ. 60% ตลอดอายุสัมปทานซึ่งคงเดิม นอกจากนั้น BEM จะร่วมลงทุน 3.2-4.0 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการและแก้ปัญหาจราจร (มาจากกระแสเงินสดบริษัท+กู้ยืม+หุ้นกู้) ทั้งนี้จะเสนอข้อตกลงให้กับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) และคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (คณะกรรมการ PPP)พิจารณาต่อเพราะเป็นการร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชน จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
BEM มีความมั่นคงในระยะยาว หลังจากได้ขยายอายุสัมปทานไปอีก 37 ปี บริษัทจะตัดค่าเสื่อมราคาน้อยลงไปมากเพราะไม่มีเงินลงทุนใหม่ ส่งผลให้กำไรสุทธิบรรทัดสุดท้ายปี 62 จะขยายตัวถึง 68% และเติบโตได้ดีต่อในปี 63 นอกจากนั้นบริษัทยังมีโอกาสได้งานบริหารเดินรถเพิ่มเติมเข้ามาอีก ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการขยายตัวได้ในระยะยาว ด้านการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางก็เปลี่ยนเป็นเงื่อนไขที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องไปอิงกับอัตราเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มอยู่ในอัตราต่ำทำให้ปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางในเงื่อนไขเดิมจะไม่ง่ายนัก
พร้อมปรับเพิ่มราคาพื้นฐานของ BEM เป็น 11.80 บาท (เดิม 9.60 บาท) หลังจากสะท้อนการได้ขยายอายุสัมปทาน, การร่วมลงทุนใหม่ 4.0 หมื่นล้านบาท โดยมีสมมติฐานว่าลงทุน 5 ปีเริ่มตั้งแต่ปี 63 และคาดว่าปริมาณการใช้บริการจะเพิ่ม 15% ในปีแรก, 10% ในปีที่สอง, 5% ในปีที่สามต่อมา และที่เหลือ 0%-3% ความเสี่ยงหลัก คือ โครงการใหม่เข้ามาล่าช้ากว่าที่คาด