นายสาวิน จินดากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) เปิดเผยในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้ว่า บริษัทเตรียมยื่นงบการเงินของไตรมาส 3-4 ปี 60 และงบการเงินของปี 61 ทั้งหมดในช่วงต้นปี 62 ก่อนที่จะยื่นขอปลดเครื่องหมาย SP คาดว่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลังปี 62
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนระยะสั้นคือ การใช้เงินหมุนเวียนที่มีอยู่ในบริษัทราว 2,000 ล้านบาท และตั้งเป้าที่จะมียอดขายถ่านหินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท หรือปริมาณการขายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตันในปี 62 และเชื่อว่ากลับมามีกำไรสุทธิ โดยบริษัทยังคงเน้นการบุกตลาดหลักเดิมที่มีอยู่ 7 ประเทศ คือ ไทย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน บังกลาเทศ และฮ่องกง
นอกจากนี้หลังจากที่บริษัทจะหาแนวทางในการระดมเงินทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการออกหุ้นกู้ การออก RO , PP ,Warrant ,แหล่งกู้เงินจากสถาบันทางการเงิน และอื่นๆ โดยจะเลือกทางที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับปัจจุบันบริษัทมีหนี้อยู่ทั้งหมดราว 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินกู้จากสถาบันทางการเงินมูลค่าราว 14,000 ล้านบาท ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) และหุ้นกู้ มูลค่าราว 7,500 ล้านบาท และที่เหลือคือหนี้การค้า ส่วนหนี้ที่เกิดจากการฟ้องร้องจากพันธมิตรในจีนมูลค่า 26,000 ล้านบาทนั้นทางบริษัทได้มีการเจรจาและมีการถอนฟ้องแล้ว หนี้ดังกล่าวจึงหายไปทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้บริษัทเตรียมนำบริษัทลูก คือ บริษัท กวางตง เอนเนอร์จี เอิร์ท (GECL) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศฮ่องกง ในช่วงต้นปี 63 เพื่อระดมทุนมาใช้เพิ่มยอดขายในประเทศจีน เนื่องจากประเทศจีนเป็นตลาดถ่านหินที่ใหญ่มาก ปริมาณการใช้ปีละ 4,000 ล้านตัน บริษัทจึงมองเห็นถึงโอกาสที่จะเติบโตให้อีกมาก
นายสาวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทเตรียมที่จะสรุปแผนการดึงพันธมิตรเข้าลงทุนในเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียราวช่วงต้นปี 62 ก่อนที่จะลงทุนจริงในปลายปี 62 โดยปริมาณถ่านหินทั้งหมดของเหมืองดังกล่าวมีอยู่ราว 214 ล้านตัน และมีระยะเวลาสัมปทาน 25 ปี และสามารถต่อระยะเวลาสัมปทานสามารถต่อได้จนกว่าจะขุดเหมืองทั้งหมดได้
"เรายังคงมั่นใจว่าเราจะยังกลับมาเป็นมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ของประเทศไทย อีกครั้ง และเรามั่นใจว่าจะกลับมาจ่ายปันผลได้โดยเร็ว ด้วยแผนระยะสั้น และระยะยาว ที่ชัดเจน แผนการจ่ายคืนชำระหนี้ที่แน่นอนด้วย"นายสาวิน กล่าว