สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดรายนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ขณะดำรงตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบมจ. อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) ขัดขวางและไม่ดำเนินการให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการและประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลง ด้วยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราโทษสูงสุดตามกฎหมายรวมเป็นเงิน 1,110,042 บาท
สืบเนื่องจากที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ ซึ่งขณะกระทำผิดดำรงตำแหน่งกรรมการและและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ IFEC ขัดขวางและไม่ดำเนินการให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการและประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลง ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการ และไม่ให้ความร่วมมือกับกรรมการของ IFEC ในการอำนวยความสะดวกในการจัดสถานที่ในการประชุมคณะกรรมการ อันเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริตของกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ โดยให้นายศุภนันท์ชำระเงินค่าปรับทางแพ่ง รวมถึงกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด
นายศุภนันท์ ไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีนายศุภนันท์ต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราโทษสูงสุดตามกฎหมายดังนี้ (1) ชำระค่าปรับทางแพ่ง เป็นเงิน 1,000,000 บาท (2) ห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา (3) ห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นระยะเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา และ (4) ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงิน 110,042 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ