นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล. เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ทำการแรก (2-4 ม.ค.) ของปี 62 ปัจจัยต่างประเทศยังมีผลต่อทิศทางดัชนี ประเด็นสำคัญที่ตลาดจะให้ความสนใจมากคือ การเจรจาการค้าของสหรัฐกับจีนในวันที่ 7 ม.ค.62 ซึ่งจะนำไปสู่การทำข้อตกลงระหว่าง 2 ประเทศ หากเจรจาประสบความสำเร็จจะมีน้ำหนักในทางบวกต่อตลาด
แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการใช้นโยบายภาษีสหรัฐกับจีนยังมีผลต่อเศรษฐกิจและการค้าของโลกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากผลของสงครามการค้านั้นไม่เพียงแต่มีผลต่อตลาดหุ้นแต่มีผลต่อเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น โอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 62 มีน้อยลงอาจเหลือเพียง 1-2 ครั้ง ขณะเดียวกันยังส่งให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง แต่หากเจรจาการค้ามีแนวโน้มเป็นผลสำเร็จ ดัชนีตลาดหุ้นและราคาผลิตภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น ตลาดกำลังติดตามเรื่องผลโพลว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หากเป็นไปในทิศทางที่หนุนตลาด เชื่อว่านักลงทุนจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นหลังจากที่ชะลอการซื้อไปในเดือน ธ.ค.62 ทั้งนี้หลังจากมีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้งออกมา คาดว่าเป็นช่วงสัปดาห์แรกของ ม.ค.นี้ จะทำให้นักลงทุนอาจตอบรับต่อความชัดเจนของวันเลือกตั้งที่คาดไว้ว่าเป็นวันที่ 24 ก.พ.
ดังนั้น การลงทุนในสัปดาห์แรกของปี 62 ตลาดหุ้นจะมีวันทำการเพียง 3 วัน คาดว่าตลาดยังมีความผันผวน แต่หากตัวแปรหลักๆ อย่างเรื่องการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีนและทิศทางการเมืองของไทยเป็นผลบวก ตลาดพร้อมจะปรับตัวขึ้น โดย KTBST แนะนำให้ "ถือ" เพื่อรอดูจังหวะในการซื้อหรือขายหุ้น และยังคงแนะนำให้เลือกลงทุนหุ้นโดยเน้นหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือมีกำไรที่มั่นคงไว้ก่อน
สำหรับหุ้น KTBST มองว่าน่าสนใจในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย GULF, BJC, MTC, SEAFCO, ERW, THG, THANI และมองกรอบดัชนีในสัปดาห์นี้ที่ 1,550-1,584 จุด