แหล่งข่าวจาก บมจ.ช.การช่าง (CK) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในปี 61 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้งานใหม่เพียง 5.4 พันล้านบาท นับว่าเป็นระดับน้อยที่สุดที่เคยได้มาในช่วง 5 ปีหลังนี้ และเป็นงานที่รับจากบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เนื่องจากในปี 61 ภาครัฐยังไม่มีงานออกประมูล ขณะที่ในส่วนรายได้ปี 61 คาดไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายที่วางไว้ 3.0-3.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนในปี 62 คาดว่าจะมีรายได้ราว 3 หมื่นล้านบาท จากงานในมือ (Backlog) สิ้นปี 61 อยู่ที่ประมาณ 4.2 - 4.3 หมื่นล้านบาทที่สามารถรับรู้ได้ในระยะเวลา 1 ปีครึ่ง และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นปี 62 อยู่ที่ 8% ใกล้เคียงกับปีก่อน
ขณะเดียวกันประเมินว่างานภาครัฐในปี 62 จะออกมาอย่างน้อย 6 โครงการ มูลค่างานก่อสร้างรวมไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา) ประมาณ 1 แสนล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ งานก่อสร้าง 8 หมื่นล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม งานก่อสร้างประมาณ 8 หมื่นล้านบาท, โครงการทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก มูลค่า 3.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าทีโออาร์และประกาศขายซองได้ในเดือน ม.ค.62 โดยบริษัทคาดว่าจะได้งานอย่างน้อย 25% ของงานประมูลทั้งหมด
นอกจากนี้มีงานร่วมลงทุน (RFP) การให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M)โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา และ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี โดยแต่ละเส้นทางคาดงานก่อสร้างมุลค่าประมาณ 6-7 พันล้านบาท
รวมทั้งยังมีโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินตะวันออก ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีโครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 ที่มี 8 เส้นทาง น่าจะทยอยเปิดประมูลปีนี้อีก 1-2 เส้นทาง
"ปีนี้น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว โครงการเหล่านี้อยู่ในแผนแม่บทคมนาคมอยู่แล้ว ไม่ว่ารัฐบาลใหม่เข้ามาก็ต้องทำแต่จะทำช้าเร็วก็ต้องมาดู ซึ่งถ้าจะปรับเปลี่ยนก็คงต้องทำหลังเลือกตั้ง ถือว่าเป็นเรื่องปกติ... ทั้งนี้ คาดว่า งานใต้ดิน เราจะมีโอกาสได้งาน 50% ถ้างานทางด่วน งานทางคู่ก็มีโอกาส 25%" แหล่งข่าว กล่าว