EGCO เล็งขายธุรกิจถ่านหินในอินโดนีเซีย-โรงไฟฟ้าพลังงานลมในออสเตรเลีย หากได้ราคาดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 3, 2019 14:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า บริษัทมองโอกาสที่จะขายธุรกิจเหมืองถ่านหิน ในอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบันมีการลงทุนอยู่ 40% และโรงไฟฟ้าพลังงานลมในออสเตรเลีย ที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วตั้งแต่ปี 2557 หากได้รับผลตอบแทนที่ดี โดยมองการซื้อหรือการขายของธุรกิจเป็นเรื่องปกติ หากธุรกิจดังกล่าวไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่พอใจ หรือมีผู้สนใจซื้อและสามารถทำกำไรได้ในระดับที่ดี

ปัจจุบันบริษัทถือหุ้นทางอ้อมในบริษัท พีที มานัมบัง เมารา อีนิม จำกัด (เอ็มเอ็มอี) ในสัดส่วน 40% โดยเอ็มเอ็มอีเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินชนิดเปิด "มานัมบัง เมาราอีนิม" ตั้งอยู่ที่เมืองเมาราอีนิม จังหวัดสุมาตราใต้ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐบาลอินโดนีเซีย เป็นระยะเวลา 28 ปี ตั้งแต่เดือนมี.ค.2553 ถึงเดือนมี.ค. 2581 มีปริมาณถ่านหินสำรอง 140 ล้านตัน โดยมีปริมาณการขายในปี 59 จำนวน 1.12 ล้านตัน ขณะที่ปัจจุบันมีการผลิตอยู่ที่ราว 1.2 ล้านตัน/ปี

ขณะที่มีการลงทุน 100% ในโรงไฟฟ้าโบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ขนาด 113 เมกะวัตต์ (MW) โดยโครงการเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วเมื่อเดือนพ.ย.2557 มีอายุสัญญา 10 ปีและต่ออายุได้อีก 5 ปี ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียค่อนข้างทรงตัว ไม่สูงมากนักทำให้ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นไม่มากจึงไม่ใช่ตลาดของผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งหากมีผู้สนใจก็พร้อมที่จะขายออกเพื่อนำเงินไปลงทุนใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

"ธุรกิจถ่านหินเราก็อยากขาย ธุรกิจไหนที่ผลตอบแทนไม่ดี เราก็ขาย ธุรกิจไหนมีผลตอบแทนดีมากเราก็ขาย เรื่องการซื้อขายเป็นเรื่องปกติ...เรามองหลาย ๆ อย่าง ถ่านหินเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ยุคนี้ธุรกิจถ่านหินซบเซาเราก็พิจารณาว่าจะทำอย่างไร ถ่านหินยังทำกำไร ยอดขายโตทุกปี เราไม่กระสันที่จะขาย แต่ถ้ามีใครสนใจมาให้ราคาดี เราก็จะขาย อย่างมาซินลอค หรืออีสท์วอเตอร์ ขึ้นอยู่กับโอกาสทางธุรกิจว่าเป็นอย่างไร"นายจักษ์กริช กล่าว

เมื่อต้นปีที่แล้ว EGCO ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 18.72% ในบมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) คิดเป็นมูลค่า 5.23 พันล้านบาท และขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 49% ในโรงไฟฟ้ามาซินลอค ประเทศฟิลิปปินส์ มูลค่า 850 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรจากการขายสินทรัพย์ทั้ง 2 ธุรกิจประมาณ 1.42 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในช่วงปลายปี EGCO ประกาศซื้อหุ้น 49% ของโรงไฟฟ้า Paju ขนาด 1,823 เมกะวัตต์ ในเกาหลีใต้ มูลค่า 2.62 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือน ม.ค.62 ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ทำให้ EGCO จะมีโอกาสขยายความร่วมมือในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ร่วมกับพันธมิตรเกาหลีใต้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ