นางสาวรินใจ ชาครพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) เปิดเผยว่า ปี 2561 TFEX เติบโตทั้งด้านปริมาณการซื้อขายและการขยายฐานผู้ลงทุน โดยปริมาณการซื้อขายรวมทั้งปีอยู่ที่ 104,422,200 สัญญา หรือเฉลี่ย 426,213 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 31% จากปี 2560 ทั้งนี้ สินค้าที่ได้รับความนิยมซื้อขายมาก ได้แก่ Stock Futures และ SET50 Futures ซึ่งมีการซื้อขายรวมกันสูงถึง 94% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมด เนื่องจากผู้ลงทุนใช้เป็นทางเลือกในการเพิ่มผลตอบแทนและบริหารความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน
สำหรับการขยายฐานผู้ลงทุนนั้น ณ สิ้นปี 2561 จำนวนบัญชีซื้อขายของผู้ลงทุนเท่ากับ 168,506 บัญชี เพิ่มขึ้น 21,947 บัญชี หรือคิดเป็น 15% จากปีก่อนหน้า
สำหรับการซื้อขายสินค้าหลัก พบว่า Stock Futures มีสัดส่วนการซื้อขายสูงสุดคิดเป็น 53% รองลงมา SET50 Futures 41% Gold Futures 4% และอื่นๆ 2% ทั้งนี้ ผู้ลงทุนทั่วไปมีสัดส่วนการซื้อขายสูงสุด 51% รองลงมาเป็นผู้ลงทุนสถาบัน 36% และผู้ลงทุนต่างประเทศ 13% ขณะที่ด้านสถานะคงค้าง (Open Interest) พบว่า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561 มีปริมาณอยู่ที่ 2,440,223 สัญญา
"ปีที่ผ่านมา TFEX ได้รับความร่วมมือจากบริษัทสมาชิก ในการส่งเสริมความรู้และดำเนินกิจกรรมการตลาด รวมถึงการเข้ามาช่วยสนับสนุนในฐานะผู้ดูแลสภาพคล่อง นอกจากนี้ TFEX ยังได้พัฒนาสินค้าและบริการใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ การเปิดซื้อขายสินค้าใหม่ Gold Online Futures การร่วมกับสำนักหักบัญชีนำเสนอบริการใหม่การวางหุ้นเป็นหลักประกันเพื่อให้ผู้ลงทุนมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการหลักประกันมากขึ้น รวมถึงการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการยางพาราและบริษัทสมาชิกของ TFEX สนับสนุนการซื้อขายและส่งมอบสินค้ายางพาราล่วงหน้าเพื่อสร้างความมั่นใจในการรับมอบส่งมอบสินค้าแก่ผู้ลงทุน" นางสาวรินใจ กล่าว
ปี 2562 TFEX ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ตลอดจนปัจจัยแวดล้อม เพื่อส่งเสริมสภาพคล่องในการซื้อขายในสินค้า SET50 Futures และ Options และ Stock Futures รวมถึงปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น โดยจะปรับปรุงการรับมอบส่งมอบของ Gold-D ให้ทำได้ทุกวัน ปรับปรุงบริการแลกดอลลาร์และส่งมอบยางพาราสำหรับผู้ที่ซื้อขาย USD Futures และ RSS3D Futures ให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนสินค้าอ้างอิงของ Stock Futures และส่งเสริมสภาพคล่องบนกระดานหลัก ตลอดจนศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเวลาการซื้อขายสำหรับสินค้ากลุ่ม Currency Futures และ Gold Futures นอกจากนี้ TFEX จะเดินหน้าขยายฐานผู้ลงทุนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีและการตลาดดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการพัฒนาเครื่องมือในการซื้อขาย และใช้สื่อดิจิทัลในการส่งเสริมการเรียนรู้และทำการตลาดซึ่งสอดคล้องกับ Lifestyle ของผู้ลงทุนในปัจจุบันและทำให้การเข้าถึงผู้ลงทุนเป็นไปได้อย่างสะดวกและกว้างขวางมากขึ้น