หุ้น SCB ราคาไหลลง 2.22% มาอยู่ที่ 132 บาท หรือลดลง 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 238.63 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.07 น. โดยเปิดตลาดที่ 133 บาท ราคาปรับตัวทำระดับสูงสุดที่ 133 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 131 บาท
หุ้น KBANK ลดลง 0.81% มาอยู่ที่ 184.50 บาท หรือลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 210.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.12 น. โดยเปิดตลาดที่ 185.50 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 186 บาท และราคาปรับลงต่ำสุดที่ 184 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยลดลง 0.04%
บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ประเด็นลบระยะสั้นหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ ในเรื่องที่ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทอีก 0.25% ให้กับลูกค้าบุคคลธรรมดา แต่ยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้
ฝ่ายวิจัยคาดจะเห็นแบงก์ใหญ่ที่เหลือปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน บ่งชี้ถึงมุมมองว่าความต้องการสินเชื่อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นอันเนื่องมาจากการทยอยเปิดประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จึงเตรียมระดมเงินฝากมาเตรียมไว้เพื่อรักษาสภาพคล่อง ซึ่งจะกดดันอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปรับลดลงในระยะสั้น
อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในระยะยาวจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นของ NIM ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น "NEUTRAL" แนะนำ ธนาคารกรุงเทพ (BBL), SCB, ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) และบมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO)