นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ (LALIN) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการดำเนินงานของปี 62 มียอดขายที่ระดับ 5.3 พันล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ทำยอดขายทะลุ 4.5 พันล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ที่ 4.65 พันล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อนที่ทำรายได้ตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท ขณะที่ตั้งงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1 พันล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และการออกหุ้นกู้
โดยในปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภททาวน์โฮม บ้านแนวคิดใหม่ และบ้านเดี่ยว ซึ่งวางแผนจะเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 8-10 โครงการ มูลค่ารวม 4-4.5 พันล้านบาท ซึ่งจะอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด เมืองท่องเที่ยว และแหล่งงานสำคัญ พร้อมวางกลยุทธ์การตลาด ภายใต้แนวคิด The Urban Destination For Living สร้างฐานลูกค้าใหม่ในกลุ่มอายุ 25-40 ปี และยังเดินหน้ารักษาฐานลูกค้าเก่าของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร ของ LALIN กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 62 จะยังเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยคาดว่าจะขยายตัวได้เพียง 3-4% แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ถึง 4-4.3% จากปัจจัยบวกของการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในไตรมาสแรกของปี 62 และการลงทุนของภาครัฐที่เป็นงบผูกพันต่อเนื่องจากปีก่อน แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า การปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) จากทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งทำให้เป็นปีสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง
สำหรับเกณฑ์ LTV ใหม่ซึ่งจะเริ่มใช้วันที่ 1 เม.ย. 62 เชื่อว่าจะกระทบกับบริษัทไม่มาก เพราะบริษัทเน้นทำตลาดในกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังแรก