นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเพิ่มปริมาณส่งมอบถ่านหินตลาดเวียดนามในปี 2562 กว่า 2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.3 ล้านตันในปีที่แล้ว จากปริมาณถ่านหินภายในประเทศเวียดนามที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ขณะที่ยังมีความเติบโตด้านความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง โดยแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ของเวียดนามคาดการณ์ว่าในปี 2573 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในประเทศเวียดนามจะสูงขึ้น 2 เท่าตัว เป็น 130 กิกะวัตต์ สอดรับกับแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ถ่านหินยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ผลิตไฟฟ้า
"เรามีความพร้อมและศักยภาพที่จะจัดหาและขนส่งถ่านหินที่มีคุณภาพดีและหลากหลายตามที่ลูกค้าต้องการทั้งจากแหล่งผลิตของเราเองที่อยู่ในประเทศอินโดนีเซียและออสเตรเลีย และจากเครือข่ายคู่ค้า ด้วยระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2562 จากความเชื่อมั่นของลูกค้าในเวียดนามที่มีต่อบ้านปูฯ โดยเฉพาะการมีลูกค้าที่หลากหลายของเราแล้ว เราตั้งเป้าเพิ่มปริมาณส่งมอบถ่านหินเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านตัน"นางสมฤดี กล่าว
นางสมฤดี กล่าวว่า เวียดนาม นับเป็นประเทศที่ 10 ที่บ้านปูฯ มองเห็นโอกาสเติบโตทางธุรกิจ เนื่องจากประเทศเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่มีความเติบโตด้านความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ซึ่งจากความแข็งแกร่งด้านการผลิตและจำหน่ายถ่านหินที่มีความโดดเด่น ในปี 2561 บ้านปูฯ ได้จัดตั้งสำนักงานที่นครโฮจิมินห์ขึ้น เพื่อบริหารจัดการด้านการขายของธุรกิจถ่านหินครอบคลุมการดำเนินการด้านการตลาดและการให้บริการลูกค้า การวิจัย การทำสัญญาซื้อขาย และระบบโลจิสติกส์ นอกจากนี้ สำนักงานแห่งนี้ยังตอบโจทย์การพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวมถึงศึกษาโอกาสในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปเพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ จากความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ในทุกประเทศที่ไปดำเนินธุรกิจและความแข็งแกร่งและมีวินัยทางการเงิน ประกอบกับการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักบรรษัทภิบาล จึงมั่นใจในการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร และยังคงมองหาโอกาสลงทุนเพิ่มเติมเพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กรอย่างมั่นคงภายใต้กลยุทธ์ Greener & Smarter ใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
กลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน (ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การตลาด การค้า โลจิสติกส์ และการจัดหาเชื้อเพลิง และสายส่ง) กลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน (โรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และจากพลังงานทดแทน) และกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน (ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ระบบจัดเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน) ทั้งในประเทศเวียดนามและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อสร้างฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนให้ธุรกิจในอนาคต และเสริมศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่องให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยาว