นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 62 จะแข่งขันกันในด้านการพัฒนาขีดความสามารถด้านการให้บริการ (Service) และคุณภาพผลิตภัณฑ์ (Product) แทนการใช้กลยุทธ์ราคาสินค้าหรือทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากปัจจัยต้นทุนวัตถุดิบหลายรายการปรับเพิ่มขึ้น และผู้ประกอบการไม่อยากปรับราคาสินค้า เพราะจะมีผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันในภาวะที่ตลาดวัสดุก่อสร้างมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
ประกอบกับการดำเนินนโยบายของภาครัฐที่เดินหน้าโครงการบ้านล้านหลัง เพื่อสนับสนุนประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและนโยบายการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ที่เอื้อให้เกิดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางคมนาคมเพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อการกระตุ้นให้เกิดความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพื่อรองรับการก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากขึ้น
"ตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้น่าจะคึกคักขึ้น แต่สิ่งที่ท้าทายคือการบริหารจัดการต้นทุนเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคจากการปรับขึ้นราคาสินค้า ที่จะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันในการทำตลาด นอกจากผู้ประกอบการจะหันมาลดการแข่งขันด้านสงครามราคาแล้ว ประเมินว่าจะหันมามุ่งเน้นงานด้านบริการควบคู่กับการชูคุณภาพสินค้ามาเป็นแนวทางการทำตลาดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ"นายสาธิต กล่าว
บริษัทมีนโยบายเสริมความแข็งแกร่งด้านงานด้านบริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมช่างให้บริการติดตั้งระบบหลังคาที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงวางแผนบริหารจัดการด้านต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพและลดความสูญเสียในกระบวนการผลิต เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับ 25-27% พร้อมทั้งสื่อสารการตลาดภายใต้แนวคิด ‘สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง’ จากผลิตภัณฑ์ ‘ตราเพชร’ ที่มีความหลากหลายสามารถใช้ก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง