ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,593.27 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด (+0.17%) มูลค่าการซื้อขาย 24,139.41 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 1,599.10 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,588.97 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวขึ้น ขานรับปัจจัยบวกของราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมาในช่วงเช้าวันนี้ มีผลถึง 50% ต่อการดัดตัวของดัชนีหุ้นไทยเช้าวันนี้ ขณะที่หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่ปรับตัวลงสร้างแรงกดดันต่อดัชนีหุ้นไทยไม่มากราว 1% เนื่องจากเมื่อวานนี้ได้ตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว และไม่มีผลกระทบต่อดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกสลับกับแดนลบ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต คาดว่า ตลาดฯยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อเนื่องจากช่วงเช้า จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น แต่กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้แนะนำให้นักลงทุน Wait & See หลังจากวานนี้ดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุดและมีแรงขายทำกำไรออกมา มองว่าระดับของดัชนีที่สามารถเข้าซื้อสะสมได้อยู่ที่ 1,560-1,580 จุด และให้เริ่มทยอยแบ่งขายทำกำไรเมื่อดัชนีเริ่มปรับตัวขึ้นไปทดสอบใกล้ 1,620 จุด
พร้อมให้กรอบในช่วงบ่ายวันนี้อยู่ที่ 1,580-1,610 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 4,080.32 ล้านบาท ปิดที่ 22.40 บาท ลดลง 0.30 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,012.87 ล้านบาท ปิดที่ 73.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,881.67 ล้านบาท ปิดที่ 48.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,765.04 ล้านบาท ปิดที่ 65.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
BH มูลค่าการซื้อขาย 1,062.34 ล้านบาท ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 6.00 บาท