โบรกฯเชียร์"ซื้อ"STEC เล็งผลงาน Q4/61 ดีสุดต่อเนื่องถึง Q1/62 ลุ้นงานประมูลหลายโครงการใหญ่ภาครัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 10, 2019 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) คาดผลประกอบการงวดไตรมาส 4/61 จะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปี 61 และต่อเนื่องในไตรมาส 1/62 จากปริมาณงานในมือ (backlog) ที่มีมากกว่า 1 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้เห็นความคืบหน้า.นการประมูลโครงการใหญ่อีกหลายโครงการในปีนี้ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเชื่อว่าการลงทุนของภาครัฐฯน่าจะเป็นนโยบายที่ทุกพรรคการเมืองใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งด้วย

ด้านราคาหุ้น STEC เผชิญกับการขายทำกำไรหลังพลาดงานรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ล่าสุดเริ่มฟื้นตัว และปัจจัยเร่งการประมูลมีมากขึ้นในไตรมาส 1/62 จึงมองระดับราคาหุ้นปัจจุบันเป็นโอกาสเข้าลงทุน

ราคาหุ้น STEC ต้นภาคบ่ายวันนี้อยู่ที่ 20.90 บาท ลดลง 0.30 บาท (-1.42%) ขณะที่ SET -0.20%

          โบรกเกอร์                       คำแนะนำ              ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          บล.กสิกรไทย                       ซื้อ                       30.10
          บล.เอเชีย เวลท์                    ซื้อ                       27.00
          บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)              ซื้อ                       28.60
          บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)     ซื้อเก็งกำไร                29.00
          บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)            ซื้อ                       31.00

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ผลประกอบการของ STEC ในช่วงไตรมาส 4/61 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 61 และจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1/62 ปัจจุบันบริษัทมี Backlog มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนปัจจัยเสี่ยงระยะสั้นนั้นยังแทบจะไม่มีเลย โดยราคาวัสดุก่อสร้างในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับตัวลดลง และรัฐบาลชุดปัจจุบันจะยังคงรักษาการไปจนกว่าจะได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงาน ซึ่งเชื่อว่าจะมีการผลักดันโครงการต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง

"STEC เป็นหุ้นที่เราชอบมาก ๆ อยู่แล้ว แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาราคาจะปรับตัวลดลงจากความกังวลเกี่ยวกับงานใหม่ ๆ ที่จะไม่ออกมา แต่ผมมองว่ากังวลมากเกินไป เพราะ STEC เองก็มีงานในมือรองรับค่อนข้างมาก และรัฐบาลชุดนี้ยังคงต้องรักษาการจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามา จึงเชื่อว่าจะพยายามผลักดันงานต่าง ๆ ออกมา"นายประกิต กล่าว

ด้านบล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/61 อยู่ที่ 322 ล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 1.3 พันล้านบาทจากบันทึกขาดทุนงานก่อสร้างรัฐสภาใหม่ แต่ลดลงเมื่อเทียบไตรมาส 3/61 จากค่าใช้จ่ายที่อาจจะมีการบันทึกเข้ามาในไตรมาส 4/61 อาทิ ค่าใช้จ่ายในการซื้อซองประกวดราคาของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินประมาณ 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ มองว่ารายได้ในปี 62 จะยังเติบโตดีต่อเนื่อง จากปริมาณ Backlog ที่มีมากถึง 1.13 แสนล้านบาท นอกจากนี้งานก่อสร้างในมือหลายงานยังเป็นงานที่มีอัตราการทำกำไรที่ดี เช่น งานก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย รวมมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า 3 โรง รวมมูลค่า 2 หมื่นล้านบาท ที่เริ่มทยอยก่อสร้างไปแล้วในช่วงปี 61 และคาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นตามความคืบหน้าของงานก่อสร้าง ทำให้มองว่าในปี 62-63 บริษัทจะกลับมามีอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 8% ได้เหมือนในอดีต

ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า แม้ว่ากลุ่มพันธมิตร BTS ที่ STEC ร่วมทุนราว 20% แพ้การประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในช่วง ธ.ค. 61 แต่ยังเห็นความคืบหน้าในการประมูลโครงการใหญ่อีกหลายโครงการในปีนี้ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับ EEC ไม่ว่าจะเป็น โครงการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา, ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานที่อู่ตะเภา, ท่าเรือมาบตาพุดระยะที่ 3 และท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3

นอกจากนี้ จะมีโครงการนอก EEC เข้ามาอีกในปีนี้ เช่น รถไฟฟ้าสีม่วง, ทางด่วน พระราม 3 ดาวคะนอง ทำให้งานรอประมูลยังหนาแน่นในปีนี้ ขณะที่เชื่อว่าการลงทุนภาครัฐในโครงการเหล่านี้ข้างต้นยังน่าจะเป็นนโยบายของพรรคการเมืองในการหาเสียง จึงมองบวกในด้านมูลค่างานใหม่ที่จะเข้าในตลาดก่อสร้างในปีนี้

สำหรับราคาหุ้น STEC เผชิญกับการขายทำกำไรหลังพลาดงานรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ล่าสุดเริ่มฟื้นตัว และหากประเมินจากราคาล่าสุดซื้อขาย P/B ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และปัจจัยเร่งการประมูลมากขึ้นในไตรมาส 1/62 จึงมองระดับราคาหุ้นปัจจุบันเป็นโอกาสเข้าลงทุน


แท็ก (STEC)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ