Central River Group Ltd (CRG) วางแผนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 53 แต่กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นตลาดหุ้นไทยหรือสิงคโปร์ หลังประสบความสำเร็จจากการทำ Pre IPO ขายหุ้น PP มูลค่ากว่า 122 ล้านบาท ระดมทุนขยายธุรกิจสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการให้บริการในธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ความปลอดภัยทางทะเล และบริการสนับสนุนฐานขุดเจาะน้ำมันในทะเล
"ที่เขาตกลงกับนักลงทุนไว้ คือ จะทำ IPO และเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2553 คงจะดูอีกทีว่าตลาดหุ้นสิงคโปร์หรือไทย รวมทั้งจำนวนหุ้นที่จะ IPO ยังไม่ได้สรุป โดยบริษัทวางแผนนำเงินไปขยายธุรกิจ คาดว่ากลางปีนี้จะชัดเจนมากขึ้น"นายวิชา โตมานะ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาในการจัดจำหน่ายหุ้น กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
เมื่อวันที่ 11 ม.ค.51 CRG ประสบความสำเร็จในการขายหุ้นบุริมสิทธิ์แปลงสภาพ “Series A" ให้กับนักลงทุนในวงจำกัด (Private Placement : PP) มูลค่ารวม 3.65 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 122 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 33.41 บาท : USD ณ วันที่ 11 มกราคม 2551) โดยผู้ลงทุนหลักคือ Japan Asia Investment Co., Ltd. หรือ JAIC และนักลงทุนรายย่อยอื่นๆ
"ความสำเร็จของการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญของ CRG เพื่อไปสู่เป้าหมายในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการให้บริการในธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ความปลอดภัยทางทะเล และบริการสนับสนุนฐานขุดเจาะน้ำมันในทะเล รวมถึงบริการสนับสนุนการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่ายทางอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งภูมิภาคอื่นๆ เหมือนอย่างที่บริษัทย่อยของเราได้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมาแล้ว และเราเชื่อมั่นว่าเราจะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่เหมาะสมภายในอนาคตอันใกล้นี้"นายฟิลลิป แอดกิ้นส์, Corporate Development Director กล่าว
CRG ก่อตั้งมาแล้วเป็นเวลา 18 เดือน โดยการซื้อกิจการจาก 2 บริษัทที่ดำเนินธุรกิจให้บริการสนันสนุนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (Oilfield Service) ในทะเล และธุรกิจการให้บริการสนับสนุนการขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่ายทางอากาศ โดยทั้งสองบริษัทเข้าร่วมในกลุ่ม CRG ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2550 เป็นต้นมา
การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในวงจำกัดครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาเงินทุนสำหรับการก่อสร้างศูนย์บริการแห่งใหม่ในประเทศไทยที่ปิ่นทอง และการก่อสร้างท่าเรือที่ Vung Tao ประเทศเวียตนาม นอกจากนี้ยังใช้ในการผลิตอุปกรณ์ที่บริษัทได้รับสิทธิบัตรเฉพาะ ซึ่งจะนำไปใช้ในการขนส่งและจัดการกับวัตถุที่เน่าเสียได้ง่ายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและในต่างประเทศ
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--