(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์รอความคืบหน้าหลายปัจจัยใน-ตปท.,ลุ้นกลุ่มแบงก์ทยอยประกาศงบฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 14, 2019 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,580-1,610 จุด เนื่องจากมีหลายปัจจัยทั้งในและต่างประเทศที่ยังต้องติดตาม โดยปัจจัยในประเทศเป็นเรื่องของการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ที่จะเริ่มประกาศวันนี้ และรอความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้ง

ส่วนปัจจัยต่างประเทศต่างรอติดตามความคืบหน้าเรื่องการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์) สหรัฐฯที่ยืดเยื้อมาเป็นวันที่ 24 แล้วซึ่งนับว่ามากสุดเป็นประวัติการณ์ และยิ่งยืดเยื้อนานก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯถดถอยได้ นอกจากนี้ให้ติดตามการลงมติต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่รัฐสภาอังกฤษจะโหวตเสียงในวันที่ 15 ม.ค.นี้

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ค่อนไปทางติดลบเล็กน้อยราว 0.1-0.2% พร้อมให้แนวรับ 1,585-1,590 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,610 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ม.ค.62) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,995.95 จุด ลดลง 5.97 จุด (-0.02%) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6971.48 ลดลง 14.59 จุด (-0.21%) และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,596.26 จุด ลดลง 0.38 จุด (-0.01%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 107.59 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 21.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.50 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.17 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 17.69 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ม.ค.62) 1,597.04 จุด เพิ่มขึ้น 9.41 จุด (+0.59%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 947.28 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ม.ค.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ม.ค.62) ปิดที่ 51.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.9%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ม.ค.62) ที่ 2.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.94 อ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ หลังมีแรงซื้อคืนดอลลาร์กลับเข้ามา
  • หลังจากที่บอร์ด กทพ. เห็นชอบการขยายสัมปทานทางด่วน ให้ BEM เพื่อยุติข้อพิพาททั้งหมด ก็เกิดกระแสต่อต้านจากพนักงานบางกลุ่มใน กทพ. ล่าสุด "ไพรินทร์ ชูโชติถาวร" รมช.คมนาคม ต้องออกมารับเผือกร้อน เสนอแก้ปัญหาแบบมองไปข้างหน้า และเร่งบอร์ดทำความเข้าใจกับพนักงาน กทพ. อย่างเร่งด่วน
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงประมาณ 6 เดือนที่เหลือก่อนที่รัฐบาลใหม่จะเข้ามา รัฐบาลชุดนี้จะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนให้เกิดความต่อเนื่องว่าเศรษฐกิจจะมีแรงขับเคลื่อนตลอดกระทั่งเข้าสู่รัฐบาลใหม่ และคาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเริ่มคลี่คลาย โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่เชื่อว่าจะมีทางออกได้
  • กูรูตลาดหุ้นเชื่อหุ้นไทยปี 2562 ยังไปต่อ แม้ไม่ร้อนแรง โดยปัจจัยหลักมาจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศ รวมถึงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ทำให้ทั้งปีดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,780-1,850 จุด แต่การทำกำไรส่วนต่างจากราคาหุ้นจะยากขึ้น
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุจากผลสำรวจดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ในเดือน ธ.ค.61 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ระดับ 46.0 จากเดิมที่ระดับ 45.7 ในเดือน พ.ย.61 เนื่องจากครัวเรือนไทยบางส่วนมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นผลของหลายองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลของการปรับขึ้นค่าจ้าง/เงินเดือน และจ่ายเงินโบนัสประจำปีของแต่ละหน่วยงาน/องค์กร การได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบต่างๆ ผลประกอบการของครัวเรือนในภาคการค้าและบริการที่ปรับตัวดีขึ้น (เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.) ตามการใช้จ่ายของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลปลายปี รวมไปถึงมาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยโดยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีเป็นเงิน 500 บาทต่อคน
  • ทช.พับแผนโครงการสะพานสนามบินน้ำ หลังประเมิน ผลกระทบการเวนคืนสูงทั้งงบและชุมชนในพื้นที่ เตรียมรายงาน คจร. พิจารณายกเลิก หรือหาแนวทางอื่นๆ ทดแทน เหตุเป็นโครงการที่บรรจุในแผนแม่บทสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนสะพานพระสมุทรเจดีย์อยู่ในขั้นตอนเสนอ รายงานผลศึกษา EIA

*หุ้นเด่นวันนี้

  • BEM (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 11.70 บาท ได้ Sentiment เชิงบวกจากการเร่งประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มระยะทาง 39.6 ก.ม. มูลค่า 1.4 แสนลบ. คาดเปิด Bid ช่วง Q2/62 ซึ่ง BEM มีลุ้นมากสุด เพราะสีส้มมีทั้งบนดินและใต้ดิน รวมถึงมีสถานีเชื่อมสายสีน้ำเงินที่ให้บริการอยู่ พร้อมคาดกำไร Q4/61 โตดี Y-Y เพราะปริมาณรถบนทางด่วนและผู้โดยสารบนรถไฟฟ้าหนาแน่น อีกทั้ง ต้นทุนทางการเงินยังลดลงจากการปรับโครงสร้างหนี้
  • GLOBAL (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 21.20 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/61 เพิ่มขึ้น 22% YoY จาก SSSG ที่คาดว่ายังสูงถึง 11% และมีการขยายสาขา 7 แห่ง YoY ทำให้ยอดขายเติบโตโดดเด่นกว่าบริษัทค้าปลีกอื่น ผลประกอบการยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2562 จากทั้ง SSSG ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและการเปิดสาขาใหม่
  • ERW (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 8.2 บาท รับผลบวกภาครัฐขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ไปถึงเดือน เม.ย. หนุนนักท่องเที่ยวกับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ด้านผลประกอบการคาดกำไร Q4/61 ฟื้นตัวเด่นจาก high season แนวโน้ม Q1/62 คาดกำไรโตต่อเนื่องจากการที่โรงแรม JW Marriott กลับมาดำเนินการปกติจากที่ปิด Renovate ไปในช่วงปีที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ